เรียน คุณ Martalita,

สมุนไพรที่คุณสอบถามมานั้น มีส่วนประกอบของสมุนไพรที่ออกฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ในสมัยโบราณ มักใช้บำรุงร่างกายสำหรับสตรีวัยหมดประจำเดือน เพื่อบรรเทาอาการของสตรีวัยทอง เช่น ร้อนวูบวาบ หงุดหงิดกลางคืน ปอ้งกันภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกแห้งจากการขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน

จากข้อมูลส่วนบุคคล ยังไม่ใช่สตรีวัยหมดประจำเดือน จึงไม่น่าจะมีปัญหาสุขภาพเรื่องภาวะขาดฮอร์โมนเพศ ไม่มีความจำเป็นต้องสิ้นเปลืองไปรับประทานสมุนไพรดังกล่าว หากจะรับประทานให้หมั่นสังเกตอาการจากความผิดปกติของเนื้อเยื่อที่เกิดจากการกระตุ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกิน เช่น คลำพบก้อนที่เต้านม มีน้ำนมไหล ปวดประจำเดือนรุนแรง มีเลือดออกจากช่องคลอดผิดปกติ (สีดำคล้ำ หรือเป็นก้อน) หรือมีปัญหาลิ่มเลือดอุดตันบริเวณปลายแขนหรือขา หรือเส้นเลือดไปเลี้ยงปอดอุดตัน (หายใจขัด เหนื่อยง่ายกว่าปกติ)

กลับมาที่คำถามของคุณ หากยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้ต้องมีเพศสัมพันธ์เป็นประจำ การสวมถุงยางอนามัยจะเป็นวิธีที่เหมาะสมมากกว่านะครับ ทั้งเพศชายและเพศหญิง เพราะนอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน (หนองในเทียม) พยาธิในช่องคลอด ไวรัสเริม ไวรัสตับอักเสบชนิด บี/ซี และยังช่วยป้องกันไวรัสเอชไอวีที่เป็นสาเหตุของโรคเอดส์ ที่ปัจจุบันยังไม่มียารักษาให้หายขาด และยังช่วยป้องกันไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกในเพศหญิง และหูดหงอนไก่ / มะเร็งองคชาติในเพศชายอีกด้วย

ไม่แนะนำให้รับประทานยาคุมกำเนิด (ทั้งชนิดรายเดือนหรือชนิดฉุกเฉิน) ร่วมด้วยนะครับ เนื่องจากตัวยาสมุนไพร ซึ่งทางบริษัทอาจไม่ได้แจ้งรายละเอียดตัวยาทั้งหมด อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับสมุนไพร จนเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์หรือเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้นะครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
สูตินรีแพทย์

ยาที่ลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)
ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม

ยาสตรี ยาสตรีไม่ใช่ยาทำแท้ง (Tonic herb for women)
เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล