เรียน คุณ harmorr28

คำถามนี้ตอบได้ค่อนข้างยากครับ เนื่องจากมีข้อดี ข้อเสียแตกต่างกัน

กลไกการออกฤทธิ์ก็แตกต่างกันครับ แพทย์จะพิจารณาจากผลการตอบสนองต่อยา เพื่อเลือกใช้ยาที่เหมาะสมกับคุณ
ส่วนใหญ่จะเริ่มจากตัวยาที่มีการใช้มานาน ทราบผลดี ผลเสีย และปฏิกิริยาระหว่างยา เช่น domperidone ก่อน และมียาตัวเลือกมากมายหลายยี่ห้อ ทั้งจากต่างประเทศหรือในประเทศ ทำให้พิจารณาให้เหมาะกับเศรษฐสถานะของผู้ป่วยได้มากกว่า

เมื่อใช้ยาเบื้องต้นไม่ได้ผลแล้ว จึงค่อยปรับเปลี่ยนเป็นยาอื่น ๆในกลุ่มนี้ต่อไป ทั้งนี้ต้องพิจารณาปัจจัยทัี้งโรคร่วม ยาอื่นที่ใช้ร่วมกัน ภาวะการทำงานของตับ ไต เป็นต้น

ขอแนะนำเพิ่มเติม นอกจากการใช้ยาแล้ว ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพด้วย เช่น

• - ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากหากมีไขมันในช่องท้องมาก ก็จะเพิ่มความดันในช่องท้อง ทางเดินอาหารบีบตัวได้ไม่สะดวก
• - ปรับอาหารเป็นมื้อเล็ก ๆ เพื่อให้ได้ย่อยง่าย ไม่เหลือตกค้างระหว่างมื้ออาหาร
• - เลือกรับประทานอาหารที่รสไม่จัด ย่อยง่าย
• - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ และ วันละ 30 นาที เพื่อกระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหว หากต้องนั่งทำงานติดต่อกันนาน ควรลุกขึ้นมาเดินบ้าง
• - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อลดการหลั่งคอร์ติซอลที่เป็นฮอร์โมนเครียด เข้าสารสเตียรอยด์ที่ทำให้เกิดการหลั่งกรดปริมาณมาก เสี่ยงตอ่โรคเบาหวาน กระดูกพรุน คอลลาเจนถูกทำลาย เซลล์ประสาทขาดการทำงานประสานกัน

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจช้าไม่ทันการ หรือมีข้อมูลไม่เพียงพอต่อการตอบ

เสี่ยงต่อการเกิดอ้ันตรายจากการใช้ยา หรือ ไม่ได้รับผลการรักษาที่เพียงพอ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

ยาเพิ่มการเคลื่อนไหวของทางเดินอาหาร (GI motility stimulant or Prokinetic drugs)

พรลภัส บุญสอน
เภสัชกร

ยาดอมเพอริโดน (Domperidone) หรือ โมทิเลียม (Motilium)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร

อิโทไพรด์ (Itopride)

เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร