จากข้อมูลที่ให้มา กรณีที่หญิงตั้งครรภ์มีภาวะความดันโลหิตสูง และได้รับ ยาลดความดันร่วมกับยากันชัก นั้น ฟังดูคล้ายกับภาวะ ครรภ์เป็นพิษรุนแรง (Severe preeclampsia หรือ eclampsia) ซึ่งเป็นภาวะที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และการให้ยาเหล่านี้ถือเป็นการรักษาที่ จำเป็นและปลอดภัยที่สุดทั้งสำหรับแม่และทารก ในขณะนั้นครับ

ยาลดความดัน เช่น labetalol หรือ hydralazine และ ยากันชัก ที่ใช้ในกรณีนี้มักเป็น แมกนีเซียมซัลเฟต (magnesium sulfate) ทั้งสองชนิดนี้ไม่ใช่ยาที่ทำให้ทารกพิการโดยตรงแน่นอนครับ และไม่มีข้อมูลว่าทำให้เด็กพัฒนาการช้าหรือ IQ ต่ำ ส่วนพัฒนาการของทารกในระยะยาวนั้น มักจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่น เช่น อายุครรภ์ที่คลอด (เช่น คลอดก่อนกำหนด) ภาวะรกทำงานไม่ดีจากความดันสูง น้ำหนักแรกเกิดต่ำ หรือการขาดออกซิเจนในครรภ์

ส่วนเรื่อง “ต้องผ่าคลอดภายในกี่ชั่วโมง” นั้น แพทย์จะพิจารณาจากอาการของแม่และสภาพของทารกในขณะนั้น โดยทั่วไปหากแม่มีภาวะรุนแรง แพทย์จะพยายามให้คลอดภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มการรักษา เพื่อความปลอดภัยของทั้งแม่และลูกครับ

สรุปคือ ยาที่ให้มีความจำเป็นและปลอดภัยในการดูแลภาวะครรภ์เป็นพิษ ส่วนความเสี่ยงเรื่องพัฒนาการของทารกจะขึ้นอยู่กับสุขภาพของแม่ ทารก และอายุครรภ์ตอนคลอดเป็นหลักครับ

หากมีคำถามเพิ่มเติมหรือข้อกังวลเฉพาะเจาะจง แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลโดยตรงเพื่อพิจารณาข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นนะครับ

เป็นกำลังใจให้คุณแม่และครอบครัวนะครับ