หมอตอบได้ยากนะครับ เพราะ ปกติต้องมีการตรวจรอยโรค แต่ปกติแล้ว ตุ่มที่เกิดบริเวณโคนอวัยวะเพศชายและมีอาการปวด อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น

1. สิว (Acne หรือ Folliculitis) – เกิดจากการอุดตันของรูขุมขน หรือการติดเชื้อแบคทีเรียที่รูขุมขน อาจมีลักษณะเป็นตุ่มแดง หรือหัวหนอง และมักเกิดจากการเสียดสีหรือการโกนขนบริเวณนั้น

2. ขนคุด (Ingrown Hair) – มักเกิดหลังการโกนขน ทำให้ขนม้วนกลับเข้าไปในผิวหนัง และก่อให้เกิดตุ่มแดง อักเสบ และปวด

3. ฝี (Boil หรือ Abscess) – เป็นตุ่มขนาดใหญ่ มีหนอง และมักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย Staphylococcus aureus อาจมีไข้ร่วมด้วย

4. เริมที่อวัยวะเพศ (Genital Herpes) – เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากเชื้อไวรัส HSV มักมีตุ่มน้ำใสเป็นกลุ่ม และปวดแสบปวดร้อน

5. ซิฟิลิสระยะแรก (Primary Syphilis) – อาจเป็นแผลที่ไม่เจ็บตอนแรก แต่ต่อมาจะมีอาการอื่น ๆ ตามมา

หากตุ่มไม่หายภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมครับ