กระดานสุขภาพ

ใส่ตัวอ่อน Day 3
Kaek*****p

11 สิงหาคม 2562 11:04:20 #1

สวัสดีค่ะคุณหมอ

ดิฉันเพิ่งใส่ตัวอ่อนระยะ Day 3 มา ถ้าไม่ใช่ระยะบบลาสโตซิส มีข้อสงสัยค่ะว่า กว่าที่ตัวอ่อนจะฝังตัว ต้องใช้เวลาอีกสามสี่วัน เลยอยากทราบว่า

1. ตัวอ่อนที่ใส่ไป มันลอยอยู่ในมดลูก ลักษณะมดลูกที่ตัวอ่อนลอยอยู่เป็นยังไงเหรอคะ

2. การที่เราลุกฉี่ บ่อยๆ เพราะหมอบอกให้ดื่มน้ำเยอะๆ หรือเบ่งถ่าย มีผลอะไรมั้ยคะ เพราะสังเกตุว่ามันต้องเกร็งหน้าท้องอยู่เหมือนกัน

ขอบคุณนะคะ

อายุ: 35 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

12 สิงหาคม 2562 21:14:17 #2

การรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธีการทำ IVF เป็นการรักษาที่จะช่วยให้คู่สมรสที่มีปัญหาเรื่องการมีบุตรยากสามารถตั้งครรภ์ได้มากขึ้น มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ดังนั้น คุณแม่ส่วนใหญ่ที่ได้รับการรักษาเราจะมีความวิตกกังวลมากและพยายามที่จะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเพื่อให้โอกาสการตั้งครรภ์นั้นสูงสุด คุณได้ผ่านขั้นตอนหลายขั้นตอนมาแล้วตั้งแต่การกระตุ้นไข่ การเก็บไข่ เก็บน้ำอสุจิ และได้ทำการปฏิสนธินอกร่างกายจนได้ตัวอ่อนในระยะหนึ่ง แพทย์จึงทำการ ใส่ตัวอ่อนซึ่งเป็นตัวอ่อนที่ได้จากการปฏิสนธินอกร่างกาย ระหว่างไข่ของคุณและอสุจิของแฟน เมื่อได้ตัวอ่อนในระยะแรก แต่ก็จะทำการย้ายตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้ว กลับเข้าไปในโพรงมดลูก ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนสุดท้าย ในการทำการรักษาด้วยวิธี IVF ตัวอ่อนที่ใส่เข้าไปแล้วนั้น จะมีการเคลื่อนตัวโดยธรรมชาติของเขา โดยเคลื่อนไปฝังตัวในผนังเยื่อบุโพรงมดลูก ส่วนใกล้ยอดมดลูกซึ่งจะเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุด ในการฝังตัวของเขา เราจะไม่สามารถทราบได้ว่าตัวอ่อน จะมีการเคลื่อนตัวไปฝังตัวที่ตำแหน่งใดของผนังเยื่อบุโพรงมดลูก ตัวอ่อนจะไม่ได้ล่องลอยอยู่ในโพรงมดลูก แต่จะพยายามหาที่ฝังตัว ซึ่งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกนั้นจะถูกเตรียมมาสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้แพทย์จะต้องให้คุณรับประทานฮอร์โมนหรือฉีด หรือเหน็บยา เพื่อกระตุ้นให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวหรือฟูขึ้นมาให้ตัวอ่อนสามารถเคลื่อนตัวเข้าไปฝังได้ และแพทย์อาจจะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ มากขึ้นด้วยการพยายาม ใส่ตัวอ่อนจำนวนหลายตัว แต่อย่างไรก็ตาม โอกาสที่จะเกิดภาวะครรภ์แฝดก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ หลังการใส่ตัวอ่อนแล้วส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้คนไข้กลับไปพักที่บ้าน พยายามทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้ครบ 5 หมู่ตามปกติ หลีกเลี่ยงอาการท้องผูก ดื่มน้ำให้มาก ระมัดระวังเรื่องอาหาร ไม่ให้เกิดอาการท้องเสียทานอาหาร ที่ย่อยง่ายและให้ยาป้องกันการหดรัดตัวของมดลูก และให้ยาฮอร์โมนเพื่อให้การฝังตัวของตัวอ่อนดีขึ้น คุณสามารถลุกขึ้นขับถ่ายได้ตามปกติ สามารถเบ่งถ่ายอุจจาระได้ตามปกติ ไม่ต้องวิตกกังวลค่ะ แพทย์บางรายอาจจะแนะนำคนไข้ว่าไม่ต้องพัก สามารถไปทำงานได้ แต่คนไข้ส่วนใหญ่จะไม่สบายใจอยากจะขอนอนพักมากกว่าเพื่อที่จะทำให้กระทบกระเทือนตัวอ่อนน้อยที่สุด จากนั้นจะนัดคุณไปทำการตรวจเลือดเพื่อดูว่าตัวอ่อนมีการฝังตัวได้ดีจนเจริญเติบโตและ กลายเป็นตัวอ่อนในระยะต่างๆที่มีความสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อยๆหรือเปล่า ถ้าตรวจเลือดแล้วไม่พบการตั้งครรภ์แสดงว่าตัวอ่อนอาจจะไม่มีการฝังตัวฝังตัวไม่ดีมีการกระจายหายไป สุดท้ายคุณก็จะมีรอบเดือนมานั่นหมายถึงผนังเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีการเตรียมไว้ได้ลอกหลุดออกมาเป็นประจำเดือนต่อไปแล้ว ขอให้คุณโชคดีในการรักษาภาวะมีบุตรยาก ได้ลูกที่แข็งแรงต่อไปนะคะ

Kaek*****p

13 สิงหาคม 2562 11:13:05 #3

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ เข้าใจขึ้นมากเลยค่ะ เเต่หนูใส่มา 9 วันเเล้ว ไม่มีอาการอะไรเลย อาการก่อนตั้งครรภ์ของท้องธรรมชาติเเละท้องด้วยการทำ IVF มีความต่างกันมั้ยคะคุณหมอ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

15 สิงหาคม 2562 06:40:17 #4

อาการแพ้ท้องที่เกิดจากการทำ เด็กหลอดแก้ว และการตั้งครรภ์เองตามธรรมชาติ ไม่ได้แตกต่างกันค่ะเพราะเป็นผลมาจากการที่ระดับฮอร์โมน Beta hcg มีปริมาณที่สูงขึ้นในร่างกาย จึงทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนเวียนศีรษะได้ อย่างไรก็ตาม อาการดังกล่าวไม่ได้เกิดกับสตรีตั้งครรภ์ทุกคน บางรายก็เกิดบางรายก็ไม่เกิด ดังนั้น จึงไม่ควรวิตกกังวล ในกรณีที่ไม่มีอาการแพ้ท้องไม่ได้หมายความว่า จะไม่มีการตั้งครรภ์เพราะมีสตรีหลายรายที่ตั้งครรภ์โดยที่สบาย ปกติดี ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเลยก็มีค่ะ ขอให้คุณโชคดีมีการตั้งครรภ์ในครั้งนี้นะคะ