จากประวัติที่คุณบอกมาคุณมีเพศสัมพันธ์กับแฟนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์และได้มีรอบเดือนมาตามปกติแล้วในวันที่ 3 มีนาคม ถ้าหลังจากวันที่ 3 มีนาคมมาคุณไม่เคยมีเพศสัมพันธ์อีกเลยดังนั้น คุณจะไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์อย่างแน่นอนค่ะ แต่ต้องมั่นใจว่า 3 มีนาคมเป็นรอบเดือนที่ปกติไม่ใช่เลือดออกผิดปกติค่ะ ในกรณีที่คุณได้รับการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ถึง 2 ครั้งแล้ว ไม่พบการตั้งครรภ์ก็น่าจะเชื่อถือได้ว่าไม่ควรมีการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน ตอนนี้คุณไม่มีรอบเดือนมาตามปกติ น่าจะเป็นผลมาจาก การทำงานของร่างกายที่ไม่ปกติเช่นภาวะไข่ไม่ตก เป็นต้น จึงควรต้องมาพบแพทย์เพื่อที่จะได้รับการตรวจอัลตราซาวด์ประเมินลักษณะของรังไข่ แพทย์จะให้การรักษาคุณต่อไปได้โดยการให้ฮอร์โมนไปรับประทาน เพื่อให้มีรอบเดือนมาตามปกติค่ะ สำหรับการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์นั้นจะมีความแม่นยำถ้าได้ทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ แต่ถ้าเป็นการตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน Free Beta hcg คุณสามารถไปรับการตรวจได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ค่ะ ถ้ากังวลมากก็ควรไปรับการตรวจอย่างที่ได้แนะนำไปแล้วค่ะ

ในกรณีที่คุณมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 27 มีนาคม แล้วมีเลือดออกผิดปกติในช่วงวันที่ 6-10 เมษายน เลือดที่ออกนั้นอาจจะเป็นเลือดที่ออกมาผิดปกติทางช่องคลอด ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตก จึงทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวมากเกินไปจนทำให้มีเลือดออกผิดปกติกระปิดกระปอยได้ ในกรณีที่เลือดยังออกผิดปกติคุณสามารถไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย ส่วนใหญ่แพทย์จะรักษาโดยการให้ฮอร์โมนมารับประทาน โดยฮอร์โมนที่ใช้คือฮอร์โมนโปรเจสโตเจน ซึ่งสามารถรับประทานได้นานประมาณ 7-10 วัน เลือดที่ออกผิดปกติก็จะหยุดหายไป และมีการปรับรอบเดือนใหม่โดยฮอร์โมน แต่ถ้า เลือดหยุดแล้วอาจจะสังเกตอาการไปก่อนก็ได้ สำหรับเรื่องการตั้งครรภ์นั้นถ้าคุณกังวลมากจะต้องทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์เท่านั้นค่ะ ไม่สามารถตอบยืนยันได้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่