กระดานสุขภาพ
ฉีดยาคุมแล้วมีลูกยากจริงไหมคะ | |
---|---|
31 มีนาคม 2562 18:26:25 #1 ดิฉันไม่เคยตั้งครรถ์มีบุตรมาก่อน และได้ทำการฉีดยาคุมมาเป็นเวลา 2 ปี แล้ว ดิฉันจะมีลูกยากไหมคะ |
|
อายุ: 23 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.41 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
1 เมษายน 2562 16:27:13 #2 ยาฉีดคุมกำเนิดจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูง ฉีดครั้งละ 12 สัปดาห์หรือ 3 เดือน ยาคุมจะค่อยๆออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยไปกดการทำงานของรังไข่ ทำให้ไข่ไม่ตกและยังทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกด้านในโพรงมดลูกมีความบางตัวลงมาก ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถไปฝังตัวได้ รวมทั้งยังทำให้ท่อนำไข่มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลงจนอสุจิและไข่ไม่สามารถไปปฏิสนธิกันได้ ด้วยกลไกทั้งหมดนี้จึงทำให้ผู้ที่ฉีดไม่สามารถมีบุตรได้ ส่วนอาการข้างเคียงที่พบได้ ได้แก่ มีเลือดออกผิดปกติกระปริดกระปรอยทางช่องคลอด ทำให้น้ำหนักตัวขึ้นได้และอาจจะทำให้มีอาการปวดศีรษะ ถ้าฉีดไปนานๆ ก็อาจจะทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้เช่นกันค่ะ มักจะใช้ในกรณีที่สตรีนั้นมีบุตรมา แล้วหรือกำลังให้นมบุตร ซึ่งยาฉีดตัวนี้จะไม่มีผลต่อการให้ลูกกินนมแม่ แต่ในคนที่โสดมักไม่แนะนำให้ฉีดยาคุม เพราะอาจจะทำให้มีบุตรยาก และทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว ถ้าต้องการมีบุตรควรจะต้องหยุดยาก่อนอย่างน้อยประมาณ 6-8 เดือน เพื่อวางแผนในการตั้งครรภ์เพราะฤทธิ์ของยาคุมมักจะออกฤทธิ์ไปได้นานมากกว่า 3 เดือนอีก คุณฉีดมานาน 2 ปีแล้ว ถ้าจะวางแผนมีบุตรจะต้องหยุดยาฉีดก่อนประมาณ 6 เดือนค่ะ เพราะอาจจะทำให้มีบุตรยากได้เล็กน้อยในช่วงแรกแต่เมื่อฉีดไปนานเกินไปถ้าไม่มีประจำเดือนมาเลย ก็อาจจะทำให้มีบุตรยากขึ้นไปอีกจะต้องรอให้รังไข่กลับมาทำงานตามปกติจึงจะสามารถตั้งครรภ์ได้ |
Anonymous