กระดานสุขภาพ
ยาคุมฉุกฉิน โอกาศท้องเท่าไหร่ | |
---|---|
19 มีนาคม 2562 14:52:20 #1 คือผมได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วเกิดถุงยางขาดบริเวณปลายอวัยวะเพศ เลยวิ่งไปซื้อยาคุมกินโดยทั้นที ระยะเวลาตอนกินห่างจากตอนเสร็จกิจ ประมาณ30นาทีกว่าๆอยากทราบว่า ปล. เป็นเมนวันที่ 7 เมนหมด วันที่ 12 รอบเดือนสม่พเสมอบางเดือนอาจคลาดเคลื่อนไปซํกอาทิตไม่ค่อยเกิดบ่อย 1.โอกาศจะท้องประมาณเท่าไหร่ครับ 2.กินยาแล้วควรดูแลรักษาตนเองยังไงระหว่างกินยา 3.กินแบบไหนดีกว่ากันสำหรับการกินครั้งแรก แบบ2เม็ดทีเดียวหรือ เว้นช่วงกิน 12 ชม |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.67 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Noom*****g |
19 มีนาคม 2562 18:07:37 #2 #### แก้ข้อมูลร่ายกายเป็นของแฟนนะครับ อายุ 22 ปี สูง 150 น้ำหนัก 60 มีเพศสัมพันธ์วันที่ 19/3/2019 |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
20 มีนาคม 2562 05:10:35 #3 ในกรณีที่แฟนคุณมีรอบเดือนมาตรงตามปกติทุกเดือน คือมาทุก 28-30 วันต่อครั้ง และสามารถทำนายรอบเดือนที่จะมาถัดไปได้อย่างแม่นยำ ระยะปลอดภัยที่คุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้จะอยู่ในช่วงหน้า 7 หลัง 7 หรือถ้าแฟนคุณมีรอบเดือนมาวันแรกเป็นวันที่ 7 ระยะปลอดภัย จะอยู่ในช่วงวันที่ 1-13 คุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ได้อย่างปลอดภัย คือสามารถหลั่งน้ำอสุจิภายในได้ จะไม่เสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ แต่ถ้าเลยจากระยะนี้ไปแล้วจะไม่ปลอดภัย แฟนคุณจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอนค่ะ การคุมกำเนิดโดยการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินทันที หรืออย่างช้าไม่เกิน 24 ชั่วโมง ยาคุมจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้โดยทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์และทานอีก 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง ปัจจุบัน มีคำแนะนำให้ทาน 2 เม็ดพร้อมกันเลยในครั้งเดียวซึ่งอาจเป็นงานวิจัยใหม่ที่มีการสนับสนุนว่าการทาน 2 เม็ดให้ผลดีไม่แตกต่างจากการทานครั้งละเม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง ก็เป็นไปได้ แต่การทานห่างกัน 12 ชั่วโมง ฮอร์โมนจะค่อยๆ เพิ่มปริมาณในกระแสเลือดให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ โดยยาจะไปออกฤทธิ์ทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความไม่เหมาะในการฝังตัวของตัวอ่อนและยังทำให้มูกที่บริเวณปากมดลูกมีความเหนียวข้นจนตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ หลังทานยาคุมฉุกเฉินแฟนคุณอาจจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและรอบเดือนถัดไปมีความคลาดเคลื่อนได้ ช่วงนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์จะต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยให้ดี และมีการตรวจสอบถุงยางว่าไม่มีรูรั่ว ไม่มีรอยซึม ในกรณีที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนออกไปนาน ก็ควรทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ร่วมด้วย โดยควรทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้อย่างแน่นอน ว่าไม่มีการตั้งครรภ์ค่ะ ตอนนี้ก็ดูแลตัวเองตามปกติไปก่อนค่ะ |
Noom*****g