ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า สตรีที่มีภาวะกล้ามเนื้อกระตุกหรือมีความเสี่ยงต่อการชักมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยากันชัก ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาในการเลือกใช้ ดังเช่นยา depakene ซึ่งแพทย์จะพิจารณาหยุดใช้ก่อนที่จะมีการตั้งครรภ์ เนื่องจากยาตัวนี้จะทำให้เกิดความพิการหรือผิดปกติในรูปได้มาก เช่น อาจจะมีปัญหาในเรื่องของ สมองและระบบประสาทไขสันหลัง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดภาวะระบบประสาทไขสันหลังที่ผิดปกติ กระดูกสันหลังไม่ปิด เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตาม การทานยา folic Acid จะช่วยป้องกันปัญหาดังกล่าวได้เช่นกัน ประเด็นของยาตัวนี้คงไม่ใช่ปัญหาเพราะคุณแม่ได้หยุดไปก่อนที่จะมีการเก็บไข่ประมาณ 5 เดือน แต่ไม่ได้หยุดยา Sodium valproate ซึ่งยาตัวนี้ ก็อาจจะทำให้เกิดความพิการผิดปกติกับทารกได้ในขณะที่คุณแม่ตั้งครรภ์ เช่น ภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิด ผนังกั้นระหว่างห้องหัวใจไม่ปิด มีนิ้วเกิน มีปัญหาเรื่องของโครงสร้างของใบหน้าที่ผิดรูป ผิดปกติเป็นต้น อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณแม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาตัวนี้ในขณะตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้แต่จะต้องลดขนาดยาลงและอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยยาที่ใช้นั้น จะต้องมีขนาดไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ถ้าคุณแม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ยากันชักก็คงจะต้องทราบถึงความเสี่ยงในเรื่องของการได้รับยา ว่าไม่มียาตัวใดที่ปลอดภัยในขณะที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ แต่ถ้าคุณแม่ไม่ได้รับยาก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายกับทารกได้ถ้าคุณแม่มีอาการชักเกร็งบ่อยๆ ซึ่งจะทำให้พัฒนาการของทารกในครรภ์มีความผิดปกติได้เช่นกัน ดังนั้น คงจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างการรับประทานยาหรือการลดขนาดยาลง หรือการหยุดยา การทานยา folic Acid มีความจำเป็นในการลดปัญหาเรื่องของ ระบบสมองหรือไขสมองพิการในทารกแรกคลอดได้ และยังช่วยเพิ่มไอคิวของทารกของเด็กในช่วงเข้าสู่วัยเรียนด้วย ปัญหาคือคุณแม่ได้ทานยาในระหว่างที่เก็บไข่ดังนั้นจึงไม่ควรวิตกกังวลมากค่ะปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติไป เพราะยังไม่มีการพัฒนาของตัวอ่อนจึงไม่ส่งผลกระทบมากและถ้ามีการตั้งครรภ์ก็ควรลดขนาดยา Sodium valproate ลงด้วยค่ะ

ขอบพระคุณอาจารย์ที่ให้ข้อมูลค่ะ ตอนนี้คลายความกังวลไปได้มาก

รบกวนถามอาจารย์อีกนิดค่ะ ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 8w ทาน folic acid วันละ 500 mg. ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ประมาณ 3 เดือน จนตอนนี้ก็ยังทานอยู่ค่ะ(หยุดทาน sodium valproate แล้ว)

ไม่ทราบว่าปริมาณของ folic acid วันละ 500 mg. นั้นเพียงพอหรือไม่คะ และทารกในครรภ์ต้องมีการติดตามเป็นพิเศษหรือไม่คะ

โดยปกติขนาดของโฟลิคที่ใช้เพื่อป้องกันภาวะไขสมองพิการ ใช้ในขนาด 5 mg โดยทานก่อนที่จะตั้งครรภ์ประมาณ 1 เดือนและในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์มีความจำเป็นที่จะต้องทานเพื่อป้องกันภาวะดังกล่าวค่ะ ขนาด 500 มิลลิกรัมเป็นขนาดที่สูงมากเกินไปค่ะ

ขอโทษค่ะอาจารย์ ปริมาณ folic acid ที่ได้รับคือวันละ 500 ไมโครกรัม (ไม่ใช่ 500 mg.ตามที่แจ้งในคำถามที่แล้วค่ะ)

ซึ่งน้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในการป้องภาระไขสมองพิการมาก

ขอโทษค่ะอาจารย์ ปริมาณ folic acid ที่ได้รับคือวันละ 500 ไมโครกรัม (ไม่ใช่ 500 mg.ตามที่แจ้งในคำถามที่แล้วค่ะ)

ซึ่งน้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในการป้องภาระไขสมองพิการมาก

ขอโทษค่ะอาจารย์ ปริมาณ folic acid ที่ได้รับคือวันละ 500 ไมโครกรัม (ไม่ใช่ 500 mg.ตามที่แจ้งในคำถามที่แล้วค่ะ)

ซึ่งน้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในการป้องภาระไขสมองพิการมาก

ขอโทษค่ะอาจารย์ ปริมาณ folic acid ที่ได้รับคือวันละ 500 ไมโครกรัม (ไม่ใช่ 500 mg.ตามที่แจ้งในคำถามที่แล้วค่ะ)

ซึ่งน้อยกว่าปริมาณที่แนะนำในการป้องภาระไขสมองพิการมาก 

ในกรณีของหนูนี้ ควรพิจารณาเพิ่มปริมาณ folic acid เป็น 5 mg. หรือไม่คะ

ขอบพระคุณอาจารย์อย่างสูงค่ะ

ขนาดยาที่ป้องกันภาวะไขสมองพิการได้จะต้องเป็นขนาด 5 มิลลิกรัมเท่านั้นค่ะ

ขอบพระคุณอาจารย์ค่ะ