คุณมีรอบเดือนมาเมื่อวันที่ 20 ถึง 23 ธันวาคม และได้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 23-24 ซึ่งช่วงดังกล่าวนั้นถือเป็นระยะที่มีความปลอดภัย เนื่องจากอยู่ในช่วง 5 วันแรกนับจากวันที่มีประจำเดือนมาวันแรก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วย แต่คุณก็ได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปด้วย ดังนั้น ยาคุมฉุกเฉินอาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติหลังรับประทานยาได้ เพราะยาคุมฉุกเฉินก็คือฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูงที่จะทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความไม่เหมาะในการฝังตัวของตัวอ่อน จนทำให้มีเลือดออกมาผิดปกติทางช่องคลอดได้ค่ะ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติไม่ควรมีความวิตกกังวล ในวันที่ 2 มกราค มคุณได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีกและเกิดปัญหาคือถุงยางมีการฉีกขาดค่ะ ซึ่งก็อาจจะเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ได้ เพราะช่วงที่คุณมีเพศสัมพันธ์ เป็นช่วงที่ตรงกับไข่ตกพอดี การตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์นั้นจะสามารถตรวจได้ผลบวกถ้าได้ทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ค่ะ ดังนั้นถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 3 มกราคม ควรจะต้องทำการตรวจปัสสาวะในช่วงวันที่ 24 มกราคม เป็นต้นไป ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ ปัจจุบันแบบทดสอบปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ที่มีจำหน่ายตามร้านขายยาทั่วไป จะมีความแม่นยำและมีความไวสูงมาก ผลเชื่อถือได้ ถ้าผลออกมาว่าไม่ตั้งครรภ์ก็คือไม่ตั้งครรภ์ แต่คุณจะต้องอ่านในช่วงเวลาที่เหมาะสมไม่ใช่ทิ้งช่วงไปนานแล้วค่อยมาอ่านผล จะไม่สามารถแปลผลได้ค่ะ โอกาสตั้งครรภ์นั้นคงไม่สามารถตอบได้ว่ามากน้อยเพียงใด ควรจะต้องรอเวลาและทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ดังที่กล่าวไปแล้ว แต่ถ้ามีความวิตกกังวลมากก็สามารถไปตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน Beta hcg ที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งผลการตรวจก็จะยืนยันได้แน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ เนื่องจากคุณได้ทานยาคุมฉุกเฉินไป ดังนั้น รอบเดือนครั้งถัดไปก็อาจจะมีความคลาดเคลื่อนออกไปได้ ถ้าคุณต้องการจะฝังยาคุมกำเนิดควรจะต้องรอให้ประจำเดือนมาก่อนแล้วค่อยไปฝังยา ส่วนใหญ่แพทย์จะยังไม่ฝังยาคุมให้ถ้ายังไม่สามารถยืนยันว่าคุณมีการตั้งครรภ์หรือไม่ได้แน่นอนก่อนที่จะฝังยา ดังนั้น ควรจะต้องรอให้รอบเดือนใหม่มาก่อนแล้วค่อยไปปรึกษาแพทย์เพื่อการฝังยาคุมต่อไปค่ะ ไม่ทราบว่าหมอได้ตอบคำถามทุกคำถามของคุณหรือไม่แต่เท่าที่ดูก็น่าจะครบถ้วนค่ะ