กระดานสุขภาพ
เริมที่อวัยวะเพศ | |
---|---|
17 มกราคม 2562 05:55:35 #1 ดิฉันพึ่งหายจากการเป็นเริมเมื่อประมาสัปดาห์ที่แร่วค่ะ แผลหายแต่ยังมีรอยแดงๆยุค่ะและมีอาการคันนิดหน่อย ตอนนี่ดิฉันมีความกังวลว่ามันจะขึ้นมาใหม่อีกอ่ค่ะ เพราะต้องนอนดึกเพราะทำงานค่ะ แร่วดิฉันมีอาการปวดหัวเป็นประจำยุแร่วเรยไม่รุ้ว่าจะเดาอาการอย่างไรเพราะที่เป็นรอบที่แร่วไม่มีอาการไข้หรออะไรเรยค่ะ เริมนี่จากหายแร่วสามารถเป็นซ้ำได้เรยรึป่าวค่ะ เมื่อตอนเช้าก่อส่องกระจกกูเหนมีตุ่มขึ้นมา1ตุ่มไม่ใสค่ะ |
|
อายุ: 15 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.47 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
17 มกราคม 2562 10:03:20 #2
ดิฉันยังมีอาการคันและรุ้สึกจี๊ดๆบางเวลาต้องที่เป็นรอยแผลจากเริม แบบนี่เป็นการเตือนว่าเริมจะขึ้นใหม่รึป่าวค่ะ
และดิฉันอยากทานอาหารเสริม***จะช่วยลดการเป็นซ้ำบ่อยของเริมได้ร
|
Anonymous |
17 มกราคม 2562 23:44:41 #3
ขอเพิ่มรูปค่ะ รูปของวันนี่ค่ะ แบบนี่เริมรึป่าวค่ะ รูปเป็นตรงรอยแผลที่พึ่งหายจากการเป็นเริมประมา1สัปดาห์ค่ะ
http://haamor.com/media/images/webboardpics/bc3b1-47143-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/bc3b1-47143-2.jpg |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
18 มกราคม 2562 09:13:01 #4 จากรูป ลักษณะไม่เหมือนการติดเชื้อเริมค่ะ แต่อาจจะเป็นเพราะคุณเพิ่งหายจากการเป็นเริมมาได้ 1 สัปดาห์ เริมเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากการติดเชื้อไวรัส herpes simplex ซึ่งจะทำให้เกิดรอยโรคมีลักษณะเหมือนแผลร้อนในช่วงแรก แผลจะมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำใสเมื่อตุ่มน้ำแตกออกก็จะเห็นก้นแผลมีลักษณะสกปรก มีคล้ายเป็นฝีหนองอยู่ที่ก้นแผล เมื่อไปสัมผัสถูก โดนน้ำหรือปัสสาวะจะมีอาการเจ็บแสบที่บริเวณแผลอย่างมาก การรักษานั้นจะต้องใช้ยาต้านเชื้อไวรัสกลุ่มอะไซโคลเวียซึ่งจะมีชนิดทั้งรับประทานและทาภายนอก การที่เคยเป็นเริมแล้วก็จะสามารถเป็นกลับซ้ำใหม่ได้อีกถ้าภูมิต้านทานลดร่างกายลดต่ำลง เพราะเชื้อจะอยู่ตามเซลล์ต่างๆของผิวหนังที่บริเวณอวัยวะเพศซึ่งเคยมีการติดเชื้อมาก่อน เมื่อเป็นซ้ำโรคจะไม่รุนแรงเท่ากับการเป็นครั้งแรกเพราะร่างกายเริ่มมีภูมิต้านทานต่อการติดเชื้อไวรัสนี้แล้ว รอยโรคก็อาจจะทำให้เกิดลักษณะเหมือนเดิมแต่ความรุนแรงของโรคก็จะลดน้อยลง การรักษาด้วยยาต้านเชื้อไวรัสกลุ่มอะไซโคลเวียจะช่วยป้องกันการกลับเป็นซ้ำของโรคได้ดีมากกว่าการไม่รักษาแต่จากรูปที่เห็นในลักษณะไม่ค่อยเหมือนเริมควรสังเกตอาการไปก่อน และถ้าไม่แน่ใจก็ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยต่อไปค่ะ |
Anonymous