กระดานสุขภาพ
เครียดมากครับ ขอคำแนะนำจากคุณหมอด้วยครับ | |
---|---|
16 มกราคม 2562 14:55:15 #1 วันที่ 26 ธค. มีเพศสัมพันธ์กันกับแฟนช่วงเช้าครับ หลังเสร็จก็พึ่งรู้ตัวว่าถุงยางอนามัยแตก แต่ตอนเสร็จดึงออกมาอยู่นะครับ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่เข้าไป หลังจากนั้น 20 นาทีก็กินยาคุมฉุกเฉินทันทีครับ และอีกเม็ดที่ 12 ชม. ถัดมา ต่อมาวันที่ 31ธค. - 4 มค. มีเลือดไหลมาคล้ายประจำเดือนครับ แต่ประจำเดือนพึ่งมาวันที่ 17 ธค. เป็นวันแรกไปแล้ว 6 วัน ตอนนี้ก็ยังไม่มีอาการของการมีประจำเดือนเลยครับ และไม่กล้าตรวจการตั้งครรภ์ด้วย เครียดมากจนไม่สามารถทำอะไรได้เลยครับ ประวัติรอบเดือนมีตามนี้ครับ 27 กพ. รอบ. 41 วัน 12 เมษ. 44วัน. 23 พฤค. 43 วัน 3 กรกฎาคม 41 วัน 19 สิงหาคม 46 วัน 7 ตุลาคม 49 วัน 15 พฤศจิกายน. 39 วัน มา 17 ธันวาคม 33 วัน ผมนับตาม วันที่เลือดออกวันแรกเป็นวันที่ 1 ของรอบประจำเดือนนะครับ แบบนี้ แฟนผมมีโอกาสไม่ตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหนครับ เครียดมากครับ ขอบคุณครับ |
|
อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 39 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
17 มกราคม 2562 05:24:46 #2 จากประวัติแฟนคุณเป็นคนที่มีรอบเดือนมาไม่ตรงตามปกติ ดังนั้น จะไม่สามารถใช้วิธีการนับวันได้ ในการที่จะบอกถึงระยะปลอดภัย การที่คุณมีเพศสัมพันธ์โดยการสวมใส่ถุงยางอนามัยนั้นถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว และควรทำต่อถ้ายังไม่พร้อมที่จะมีบุตร อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่เกิดความผิดพลาดคือมีถุงยางอนามัยรั่วหรือแตก จะทำให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้น การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจึงเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ โดยคุณได้ทานอย่างถูกวิธีเช่นกันคือทานทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 24 ชั่วโมง หรืออย่างช้าไม่เกิน 48 ชั่วโมง และทานอีก 1 เม็ด ห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมง ยาจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน ยาคุมฉุกเฉินจะออกฤทธิ์ทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความไม่สม่ำเสมอ และมีการลอกหลุดออกมาเป็นเลือดคล้ายประจำเดือนหลังทานยา ดังนั้น เลือดที่ออกในช่วง วันที่ 31 ธันวาคมถึง 4 มกราคมนั้น หลังทานยาคุมฉุกเฉินจึงเป็นเลือดที่เป็นผลมาจากการทานยา ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ตอนนี้รอบเดือนของแฟนคุณ จะมีความคลาดเคลื่อนออกไปได้โดยจะไม่สามารถบอกได้ว่ารอบเดือนจะมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อไร เพราะการทานยาคุมฉุกเฉินจะมีผลทำให้รังไข่ทำงานไม่ปกติ และรอบเดือนนั้นจะมีความคลาดเคลื่อนออกไปได้ ตอนนี้ถ้าคุณรู้สึกวิตกกังวลเรื่องการตั้งครรภ์มาก คุณสามารถทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ได้ และการตรวจจะมีความแม่นยำถ้าได้ทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจนั้นจึงจะเชื่อถือได้ วันนี้คุณสามารถตรวจได้เลยหรือถ้ากังวลมากก็สามารถตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน free Beta hcg ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ได้เลย จะได้ทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นค่ะ |
Anonymous |
17 มกราคม 2562 07:14:38 #3
ขอบคุณ คุณหมอมากๆครับ
|
Anonymous |
18 มกราคม 2562 16:02:40 #4
คุณหมอครับ รายงานอาการครับ
วันนี้มีความรู้สึกปวดคัดเต้านม และมีอาการท้องเสีย เป็นอาการของการจะมีประจำเดือนหรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
19 มกราคม 2562 20:17:14 #5 อาจจะเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายหรือเป็นช่วงที่ใกล้จะมีประจำเดือนมาก็ได้ค่ะยังไม่สามารถตอบได้ควรรอไปก่อน ถ้ารอบเดือนไม่มาตามปกติก็ค่อยปฏิบัติตามที่หมอแนะนำต่อไปค่ะ |
Anonymous