กระดานสุขภาพ
สอบถามอาการตกขาวผิดปกติ | |
---|---|
22 ตุลาคม 2561 11:14:37 #1 คือเมื่อเดือนที่แล้วหนูไปหาหมอเค้าได้ให้ยาคุมมากินปรับฮอร์โมนคะ แล้วเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาไปตจว.มาค่ะแล้วลืมกินยาคุมไป 3 วัน ประจำเดือนก็มาในวันจันทร์ที่แล้ว หลังจากหนูกลับมาจากตจว.ก็เริ่มกินยาคุมอีกครั้งในวันจันทร์ค่ะ แต่คือมีปัญหาตรงที่ว่าปกติประจำเดือนจะหมดภายในระยะเวลา 5 วันค่ะ แต่ตอนนี้ยังมีเลือดสีน้ำตาลออกมาปนกับตกขาวอยู่เลย เลยอยากทราบว่าเลือดที่ออกนี้เกี่ยวกับยาคุมไหมคะ |
|
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.01 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Yuiy*****i |
31 ตุลาคม 2561 06:04:01 #2 อาจจะเกี่ยวอยู่ค่ะ หรือไม่ก็คงติดเชื้อด้วย ใช้ยาสอดนีโอ เพโนทราน ฟอร์ท ให้มันไปกำจัดเชื้อก็โอเคค่ะ แล้วสักพักอาการน่าจะดีขึ้นนะ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
3 พฤศจิกายน 2561 17:33:37 #3 ปกติแล้วเลือดที่ออกในช่วงที่ทานยาคุมกำเนิดนั้น จะขึ้นกับชนิด วันที่ทานและหยุดครับ ดังนั้น หากทนแล้วลืมไปสามวัน ประจำเดือนก็จะมาหลังจากทานยาเม็ดสุดท้าย 2-3 วันครับ และ ปกติแล้วก็ควรทานยาตามรอบยา แต่หากทานเร็วตามที่กล่าวมา เลือดประจำเดือนก็อาจกะปริดกะปรอยในช่วงสัปดาห์แรกครับ อย่างไรก็ตามหมอแนะนำให้ทานต่อไปนะครับ เลือดที่กะปริดกะปรอยนี้จะหยุดเองครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ ในเรื่องของอาการตกขาวที่มากขึ้นนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ แต่หากเป็นเพียงมูกเล็กน้อย ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ก็อาจเป็นเพียงสารคัดหลังที่มีมากขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์นะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ |
Anonymous