กระดานสุขภาพ
การมีเพศสัมพันธุ์ | |
---|---|
16 ตุลาคม 2561 07:01:17 #1 อยากจะถามว่า ผมกับแฟนมีอะไรกัน แล้วใส่ถุงยางอนามัย และก็เวลาจะเสร็จผมก็เอาออกมาหลั่งข้างนอก แล้วก็ตรวจสอบถุงยางโดยการใช้มือบีบกระเปาะตอนที่ยังมีอาุจิอยู่ แต่ไม่พบรอยรั่ว แล้วผมก็เอาน้ำใส่เพื่อดูก็ไม่พบรอยรั่ว แบบนี้มีความเสี่ยงท้องไหม้ครับ และก็อีกคำถามนึง ผมอยากทราบว่าถุงยางอนามัยมีความทนทานและ มีโอกาศในการรั่วมากแค่ไหน |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 176ซม. ดัชนีมวลกาย : 27.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Basz*****1 |
16 ตุลาคม 2561 11:24:31 #2
ตอบหน่อยนะครับ รู้สึกกังวล มือใหม่ครับ
|
Basz*****1 |
17 ตุลาคม 2561 12:56:15 #3
ตอบหน่อยครับหมอ
|
Basz*****1 |
17 ตุลาคม 2561 12:56:37 #4
กังวลครับ
|
Basz*****1 |
17 ตุลาคม 2561 16:26:33 #5
ทำไมหมอไม่ตอบอ่ครับ
|
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
17 ตุลาคม 2561 18:16:37 #6 หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้น มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ถุงยางอนามัยก่อนสอดใส่อวัยวะเพศ ถือว่า เป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพครับ ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ สบายใจได้ ส่วนในกรณีที่อาจมีน้ำหล่อลื่นติดถุงยางไปนั้น เรื่องนี้ไม่ทำให้ตั้งครรภ์นะครับสบายใจได้ อย่างไรก็ตามหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ |
Mayo*****o |
26 ตุลาคม 2561 12:34:05 #7 ใส่ถุุงยาง หลั่งนอก ถุงยางไม่ขาด เท่ากับ ไม่ท้องค่ะ ถุงยางจะดีไม่ดีขึ้นอยู่กับคุณภาพแต่ละอันเลย จริงๆถ้ากลัวมาก ให้ทางผู้หญิงป้องกันด้วยก็ดีนะคะ อย่างกินยาคุมงี้ ถ้าไม่เคยกินมาก่อนก็กินซินโฟเนียไป ฮอร์โมนต่ำ จะได้ไม่ต้องกลัวฮอร์โมนเหวี่ยง |
Basz*****1