กระดานสุขภาพ

เป็นเพราะยาคุมหรือป่าวครับ หรือไม่ใช่
Sutt*****1

8 กรกฎาคม 2561 08:08:48 #1

สวัสดีครับคุณหมอ คือ ผมมีเพศสัมพันธ์กลับแฟนวันที่ 16 มิถุนายน ครับ ผมลืมใส่ถุง เลยให้แฟนกินยาคุมฉุกเฉิน แล้ววันที่17 มิถุนายน ผมได้มีเพศสัมพันธ์อีกครั้ง ก็กลัวแฟนจะคิดมากเลยให้กินอีก1กล่อง สรุป กิน2 การกิน2 กล่องนี้อาจทำให้ประสิทธิภาพของยานั้นลดลง ใช่ไหมครับ แล้ววันที่26 มิถุนายน มีเลือดออกมาจาก อวัยวะเพศของแฟนผม แฟนผมไม่ได้บอกผม ครับ ผมเลยมีเพศสัมพันธ์กลับ แฟน แต่ครั้งนี้ ใส่ถุงยาง ผมเลยได้กลิ่นเหมือนเลือด เลย มองไปที่อวัยวะเพศ ก็เลยถาม เลือดอะไร เขาก็บอกไม่รู้ เขาบอกเป็นตั้งแต่ 25 มิถุนายนแล้ว ผมก็เลยสงสัยว่าเลือดอะไร เลย ค้นหา ผมเลยคิดว่าอาจจะเป็นเลือดที่กินยาคุมฉุกเฉินก้ได้ ก้เลยหายสงสัยแล้ว แต่เลือดก็ยังไม่หยุดไหล จนถึงวันที่29 ก้เลยสงสัยอีก มันจะนานขนานนั้นหรอ แล้วเยอะด้วย อย่างกะ เลือด ปจด ก่อนแฟนผม จะเป็น ปจด ทุกครั้ง แฟนผม จะ เจ็บเต้านมโรคที่เป็น จะแสดงออกให้ เห็นชัด เช่นโรคกระเพาะ โรค กรดไหลย้อน พวกนี้ แฟนผมจะเป็นก่อน ปจด จะมาตลอดครับ ครั้งที่แล้ว แฟนผม เป็น ปจด วันที่ 7 มิถุนายน รอบเดือน แฟนผม มาไม่ค่อยตรง ประจำเดือนครั้งต่อไปคือวันที่ 5 ก.ค แต่ ตอนนี้ เลย จะ4 วันแล้ว แต่ยังไม่มา แล้ววันที่ 8 ก.ค. ผมกำลังจะมีเพศสัมพันธ์กลับแฟนอีกครั้ง ตอนแรกได้เสียบเข้าไปแล้ว แต่ผมเลยเปลี่ยนใจที่จะใส่ถุงยาง ผมเลย มองไปเอ้ะ มีน้ำอะไรไหลออกมา ผมก็เลย หยุด แล้วไม่ทำอีกครับ ผมเลยถามแฟนอีกจะกินยาคุมฉุกเฉินไหม จะได้ไม่คิดมาก เขาก้เลยบอกไม่กิน กินแล้ว เมื่อไร ปจด มันจะมา ผมก้เลยเอ้อไม่กินก้ไม่กิน เรายังไม่ได้หลั่งอาจจะเป็นน้ำหล่อลื่นก็ได้หนิ มันจะเป็นไรหรือป่าวครับ แล้ว ปจด ที่ไม่มา4 วันแล้วนี้ เป็นเพราะยาคุมใช่หรือป่าวครับ ผมจะให้แฟนผมตรวจ วันที่ 14 ก.ค. นี้ครับ เพื่อที่ ไม่ให้เขาคิดมากครับ ผมแค่สงสัยทำไม ปจด ยังไม่มา ทั้งๆที ถึงวันแล้ว เลยมาแล้วด้วย ผมเลยมาถามหมอครับ
อายุ: 15 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 53 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Sutt*****1

8 กรกฎาคม 2561 11:42:51 #2

ตอนนี้อาการเหมือนจะเป็นไข้เลยครับ หมอ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

8 กรกฎาคม 2561 17:33:51 #3

ในกรณีที่คุณมีเพศสัมพันธ์บ่อยครั้งมากอย่างนี้ จะต้องคุมกำเนิดให้ดี มิเช่นนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ยาคุมฉุกเฉินชื่อก็บอกอยู่แล้วให้ใช้ในกรณีที่ฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ใช่ใช้อย่างพร่ำเพรื่อ มิเช่นนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ การใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่ควรใช้เกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน เพราะประสิทธิภาพของยาคุมจะลดลง และอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ เช่น การตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ ยาคุมฉุกเฉินประกอบไปด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนในขนาดสูง จะออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์โดยทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความไม่เหมาะในการฝังตัวของตัวอ่อน ทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้น จนอสุจิไม่สามารถผ่านไปได้และยังทำให้ท่อนำไข่มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลง เหตุนี้เองจึงทำให้ถ้ามีการปฏิสนธิตัวอ่อนจะฝังตัวที่ท่อนำไข่ และเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้มากหลังทานยาคุมฉุกเฉิน อาจจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและรอบเดือนถัดไปนั้นมีความคลาดเคลื่อนออกไปได้ เลือดที่ออกหลังจากทานยาคุมฉุกเฉิน 2-3 วัน จึงเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉิน ถ้าไม่พร้อมมีบุตร หมอแนะนำว่าคุณควรสวมใส่ถุงยางอนามัยให้เรียบร้อยทุกครั้งก่อนมีเพศสัมพันธ์ ควรตรวจสอบถุงยางว่าไม่มีรูรั่ว ไม่ซึม มีการสวมใส่และถอดออกอย่างถูกวิธี วิธีนี้จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน และยังป้องกันโรคติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วย แต่ถ้าไม่สวมถุงยางจะต้องให้แฟนรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดแผงทั่วไป ซึ่งจะประกอบไปด้วยชนิดแผง 21 เม็ดหรือชนิด28 เม็ด ถ้าทานชนิด 21 เม็ดจะต้องเว้น 7 วันเพื่อให้รอบเดือนมาก่อน แต่ถ้าเป็นชนิด 28 เม็ดจะต้องทานแผงชนแผงเลย การทานยาคุมนั้นจะต้องมีวินัยในการทานยาโดยทานในเวลาเดียวกันของทุกวันบวกลบไม่เกิน 1 ชั่วโมง ห้ามลืมทานยา ถ้าลืมทานยาก็จะมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ได้เช่นกัน และอาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ สำหรับการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์นั้นจะต้องทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ในช่วงนี้ถ้าจะรอตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์จะต้องคุมกำเนิดด้วยการสวมใส่ถุงยางอนามัยไปก่อนและต้องสวมใส่และถอดออกอย่างถูกวิธีด้วยค่ะ

Ooro*****o

13 กรกฎาคม 2561 14:03:28 #4

อาจจะเพราะกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยเกินไปค่ะ พวกนี้มันมีฮอร์โมนที่สูงมากค่ะ เลยอาจจะทำให้ฮอร์โมนผิดปกติอะค่ะ ประจำเดือนเลยไม่มาสักที ถ้าเกิดมีอะไรกันบ่อยแล้วกลัวที่จะท้องก็ควรป้องกันแต่เนิ่นๆค่ะ แนะนำให้กินยาคุมแบบธรรมดาอย่างของมินิดอซก็ได้ค่ะ ค่าฮอร์โมนไม่ค่อยสูงมาก ผลข้างเคียงไม่เยอะ จะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการตั้งท้องกัน