กระดานสุขภาพ
มีอาการเหมือนคนท้องแต่ไม่แน่ใจว่าจะท้องไหม | |
---|---|
17 มิถุนายน 2561 03:56:57 #1 มีประจำเดือนค่อนข้างตรงวันคือช่วงวันที่ 10 กว่าๆ แต่วันนี้ยังไม่มาค่ะล่าสุดมาวันที่ 17 พค แล้วมี พสพ วันที่ 26 โดยการใส่ถุงยางปกติค่ะ แต่เมื่อเส็ดไม่ได้มีการไปล้างในทันที ผ่านไป 1-2 อาทิตอาการหลายอย่างเริ่มเหมือนคนตั้งครรภ์ค่ะ ยกตัวเองอย่างเช่น หน้าแกขยายและมีอากาศเจ็บหน้าอก แต่ช่วงก่อนมีประจำเดือนก็เป็น เลยไม่แน่ใจว่าเป็นอาการประจำเดือนหรือป่าว ขมในปากเหมือนเป็นกรดไหลย้อนซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นและดันไปตรงกับอาการคนท้อง ท้องป่องและก็มีอาการท้องผูกช่วงอาทิตก่อนหน้านี้ค่ะ เมื่อวานมีอาการปวดหัวไม่แน่ใจว่า เกิดจากความเครียดหรือป่าว มีตกขาวเกือบทุกวันค่ะ อาการแบบนี้จะท้องไหมค่ะ หรือเป็นแค่อาการก่อนมีประจำเดือน เพราะถ้านับตามรอบประจำเดือนจะมาวันที่ 18 มิถุนาค่ะ มีอะไรยืนยันไหมค่ะว่าอาการที่เป็นคืออาการคนท้องหรือคนเป็นประจำเดือน เพราะมันเหมือนกันมากแยกไม่ถูกค่ะ |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 46 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.66 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
18 มิถุนายน 2561 04:02:16 #2 ในกรณีที่คุณมีเพศสัมพันธ์ไปเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม และมีการคุมกำเนิดด้วยการสวมใส่ถุงยางตามปกติ ถ้าถุงยางไม่รั่วไม่ซึม มีการสวมใส่และถอดออกอย่างถูกวิธี วิธีนี้จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างแน่นอน การที่คุณไม่มีรอบเดือนมาตามปกติและมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ เช่น หน้าอกขยาย เจ็บหน้าอก ขมในปาก ซึ่งอาจจะเป็นอาการของการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายหรือมีความวิตกกังวลเรื่องการตั้งครรภ์ก็ได้ค่ะ ความเครียดก็จะทำให้การตกไข่ มีความผิดปกติ ทำให้ประจำเดือนมีความคลาดเคลื่อนได้ ดังนั้น ถ้าคุณกังวลมากคุณควรทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ร่วมด้วย โดยผลการตรวจจะมีความแม่นยำ ถ้าได้รับการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจก็จะเชื่อถือได้ โดยควรทำการตรวจปัสสาวะในช่วงวันที่ 17-18 มิถุนายน ไปแล้ว ถ้าผลการตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ก็เชื่อถือได้เลยว่าไม่มีการตั้งครรภ์ คุณสามารถหาซื้อฮอร์โมนโปรเจสโตเจนมารับประทานได้ โดยทานนานประมาณ 7-10 วันรอบเดือนก็จะมาได้ตามปกติ สามารถปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับฮอร์โมนมาทานได้ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด แต่ถ้าไม่มั่นใจก็ไปพบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษาแนะนำอีกครั้งค่ะ |
R721*****6 |
18 มิถุนายน 2561 04:23:40 #3
สอบถามเพิ่มเติมค่ะ คือพึ่งมีพสพ ครั้งล่าสุดเมื่อเช้า ใส่ถุงยางปกติ แต่พอเสร็จแล้วมีเลือดติดมาที่ถุงด้วย สันนิษฐานว่าเป็นเลือดปรำเดือนที่กำลังจะมาได้ไหมค่ะ ต้องกินยาคุมกำเนิดไหม ละถ้าแบบนี้ก็ตรวจไม่ได้แล้วใช่ไหมค่ะเพราะพึ่งมีพสพไป นอกจากเลือดออกไท่มีอาการอะไรร่วมด้วยนะค่ะ ตอนนี้ก็ไม่ปวดหัวเหมือน 2 วันที่ผ้่รมาแล้วด้วยค่ะ ต้องทำยังไงต่อค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะค่ะ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
18 มิถุนายน 2561 10:24:14 #4 ถ้าคุณมีการสวมใส่ถุงยางตามปกติและมีการทดสอบอย่างดีว่าถุงยางไม่มีรูรั่วไม่ซึม มีการสวมใส่และถอดออกอย่างถูกวิธี ถุงยางจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย การที่พบเลือดปนเปื้อนออกมากับถุงยางอาจจะเกิดจากการฉีกขาดของหลอดเลือดบริเวณปากมดลูกในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ จึงทำให้มีเลือดปนออกมาหรืออาจจะเกิดจากการมีเซลล์ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูก ซึ่งหมอแนะนำว่าคุณควรไปทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกด้วย นอกจากนี้ อาจจะเกิดจากการอักเสบภายในช่องคลอดหรือปากมดลูกจึงทำให้มีเลือดออกผิดปกติได้เช่นกัน ถ้าไม่แน่ใจก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกและตรวจภายในว่ามีการติดเชื้อหรือไม่จะได้ รับการรักษาได้อย่างถูกต้องต่อไปค่ะ ถ้าคุณไม่มั่นใจในเรื่องของการป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการสวมถุงยางอนามัยคุณสามารถรับประทานยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วยได้โดยจะต้องทานทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์อย่างช้าไม่เกิน 24 ถึง 48 ชั่วโมงยาจึงจะสามารถออกฤทธิ์ได้ดี โดยสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อหาซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานได้ สำหรับการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์นั้นจะได้ผลแม่นยำถ้าทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ค่ะ |
R721*****6 |
18 มิถุนายน 2561 11:37:03 #5
แม้จะใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งก็มีโอกาสติดเชื้อได้ใช่ไหมค่ะ แล้วถ้าไปโรงพยาบาลเราสามารถตรวจว่าท้องไม่ท้องได้เลยหรือป่าวค่ะ มีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
|
R721*****6 |
18 มิถุนายน 2561 15:01:14 #6 เพิ่มเติมค่ะ มีตกขาวเป็นมูกใสผสมสีน้ำตาลมาด้วย อันนี้คืออาการของตกขาวที่ผิดปกติ หรือเป็นเลือดล้างหน้าเด็กค่ะ ไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร ตอนนีกลัวท้องมากๆ เลยค่ะ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
19 มิถุนายน 2561 06:18:47 #7 แม้จะสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งก็มีความเสี่ยงในเรื่องของการติดเชื้อได้เช่นกันค่ะ เพราะผิวหนังภายนอกยังมีการสัมผัสกันอยู่ คุณสามารถตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ได้โดยผลการตรวจนั้นจะมีความแม่นยำถ้าได้ตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ค่ะ แต่ถ้าคุณจะทำการตรวจเลือดเพื่อดูระดับฮอร์โมน Free Beta hcg สามารถตรวจได้ตั้งแต่หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้ว 2 สัปดาห์ ผลการตรวจจึงจะเชื่อถือได้ค่ะ อาการตกขาวเป็นมูกปนสีน้ำตาลนั้นน่าจะเกิดจากการที่มีเลือดปนค่ะ |
R721*****6