กระดานสุขภาพ

อาการคันจากตกขาว
Ttan*****g

9 พฤษภาคม 2561 18:00:09 #1

มีอาการตันจากตกขาวค่ะ เป็นมาปนะมาณ 5-6 วันค่ะ ตกขาวมีสีเหลืองนวลๆ ไม่มีกลิ่นค่ะ ช่วงแรกๆจะคันมากค่ะ แต่ตอนนี้คันน้อยลงแล้ว อาการแบบนี้เป็นเพราะอะไรคะ ควรรักษายังไงคะ
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 53 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.70 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 พฤษภาคม 2561 18:32:16 #2

ในเรื่องของอาการตกขาวที่มากขึ้นนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ แต่หากเป็นเพียงมูกเล็กน้อย ไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ ก็อาจเป็นเพียงสารคัดหลังที่มีมากขึ้นหลังมีเพศสัมพันธ์นะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

Niki*****n

15 พฤษภาคม 2561 10:02:23 #3

น่าจะติดเชิ้อค่ะ ถ้าไม่กล้าไปตรวจว่าเป็นเชื้ออะไรให้ลองใช้ยาสอด นีโอ-เพโนทราน ฟอร์ท ดูค่ะ อันนี้เคยถามเภสัชมาเค้าบอกว่ารักษาได้ทุกเชื้อนะ

นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

20 พฤษภาคม 2561 12:51:19 #4

ก็อาจใช้ได้ครับ มีตัวยาที่สามารถรักษาเชื้อราได้ แต่อย่างไรก็ตาม การรักษาให้ตรงกับการติดเชื้ออาจได้ผลการรักษาที่ดีกว่า เนื่องจาก การติดเชื้อต่างๆ จะมีความต่างของสาเหตุครับ หากยานี้มียาปฎิชีวนะที่ไปลดเชื้อประจำถิ่นที่จะช่วยรักษาความเป็นสมดุลหรือกรดด่างในช่องคลอดเสียไป ก็จะทำให้มีความผิดปกติอื่นขึ้นมากได้อีกครับ อีกเรื่องที่สำคัญคือ อย่าลืมปฎิบัติตัวต่างๆเพื่อลดการเป็นซ้ำด้วยนะครับ