ใส่ผ้าอนามัยไม่มีเลือดติดออกมาเลยสักนิด แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์จะมีเลือดติดออกมา จะเปนเฉพาะก่อนประจำเดือนจะมา

ตอนนี้หมอไม่สามารถตอบได้ว่าเลือดที่ออกมาจากตำแหน่งใด เพราะตำแหน่งที่สามารถมีเลือดออกได้อาจจะเป็นตั้งแต่ในระดับของโพรงมดลูกด้านใน ซึ่งมีการลอกหลุดของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกออกมาก่อน หรืออาจจะเป็นเลือดที่ออกจากบริเวณปากมดลูกซึ่งเกิดจากการแตกของหลอดเลือดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จะทำให้มีเลือดไหลตามออกมาได้ หรืออาจจะเกิดจากการอักเสบของช่องคลอดหรือบริเวณปากมดลูก ซึ่งก็จะทำให้เลือดออกได้เช่นกัน ทางที่ดีหมอแนะนำว่าคุณน่าจะไปพบแพทย์สักครั้ง เพื่อที่จะได้รับการตรวจภายในจะได้ทราบตำแหน่งของเลือดที่ออกและทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกไปด้วย ว่ามีเซลล์ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูกด้วยหรือไม่ ทางที่ดีก็น่าจะทำการตรวจอัลตราซาวด์ไปพร้อมกัน เพื่อที่จะได้ดูว่าผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความผิดปกติใดหรือไม่ และรังไข่มีถุงน้ำ หรือความผิดปกติอื่นที่อาจจะเป็นสาเหตุให้มีเลือดออกผิดปกติได้ด้วยหรือไม่ ถ้าไม่พบความผิดปกติอื่นใด เลือดที่ออกก็น่าจะเกิดจากผนังเยื่อบุโพรงมดลูก ที่มีการหลุดลอกออกมาก่อน แต่ถ้าพบความผิดปกติ เช่น มีเซลล์ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูก หรือปากมดลูกมีการอักเสบ จะได้รับคำแนะนำในการรักษาอย่างถูกต้องอย่างต่อเนื่องไปค่ะ หรือถ้ามีติ่งเนื้อผิดปกติที่บริเวณปากมดลูกที่ทางการแพทย์เรียกว่า Polyp ก็จะได้ทำการเด็ดติ่งเนื้อนั้นออกอาการเลือดออกผิดปกติก็จะดีขึ้นค่ะ
________________________________________

เลือดที่ออกมาจะปนกับน้ำหล่อลื่นค่ะ เช็ดน้ำออกก็ไม่ไหลออกมาแล้ว ไปตรวจมะเร็งปากมดลูกทุก6เดือนค่ะ ปกติตลอด แต่ช่วงไข่ตก จะปวดเกรงท้องน้อยคล้ายประจำเดือนจะมาค่ะ จะปวดอยู่ประมาณ 3 วัน แต่ทนได้โดยไม่ต้องทานยาค่ะ แบบนี้จะเกี่ยวเนื่องกันมั้ยค่ะ แล้วอาการที่เปนเลือดออกพึ่งมาเปนหลังตรวจมะเร็งปากมนลูกมาค่ะ ผลออกมาก็ปกติ และเรื่องปวดเกร็งท้องช่วงไข่ตกนี้เปนมานานแล้วค่ะ แต่จะมี3เดือนหลังที่ไปตรวจมะเร็งปากมดลูกมานี้จะปวดเยอะกว่าเดิม ค่ะ ลักษณะอาการพวกนี้จะเกี่ยวกันมั้ยค่ะ นู๋ไม่มีตกขาว ไม่มีอาการคัน ไม่มีกลิ่น ค่ะ

ถ้าคุณได้รับการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเรียบร้อยแล้วและผลออกมาปกติ ดีก็ไม่ควรกังวลค่ะ อย่างไรก็ตาม ควรไปรับการตรวจอัลตราซาวด์ร่วมด้วยว่ามีถุงน้ำที่รังไข่หรือก้อนเนื้อผิดปกติที่บริเวณมดลูกหรือรังไข่หรือไม่ หรือมีติ่งเนื้อผิดปกติในบริเวณโพรงมดลูกหรือไม่ ที่เราเรียกว่า endometrial polyp ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติได้เช่นกัน ถ้าไม่พบสิ่งใดที่ผิดปกติ ก็จะได้ยืนยันว่าเลือดที่ออกไม่น่าจะวิตกกังวลแต่อย่างใด อาจจะเกิดจากการทำงานของฮอร์โมนในร่างกายที่ไม่ปกติก็ได้ค่ะ ในกรณีหลังนี้สามารถรักษาโดยการใช้ฮอร์โมนหรือตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องไปได้เรื่อยๆ ไม่มีความเสี่ยง หรือโรคที่รุนแรงแต่อย่างใดค่ะ
________________________________________

จากอาการหากเลือดออกหลังจากเพศสัมพันธ์และออกมาจากช่องคลอดนั้น อาจมีสาเหตุหลักๆได้สองประการครับ คือ มีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์นะครับ คือ มีปัญหาในช่วงการสอดใส่ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการสอดใส่ที่รุนแรงหรือมีน้ำหล่อลื่นค่อนข้างน้อย หรือ มีช่องคลอดอักเสบอยู่ อาจทำให้เยื่อบุข่องคลอดของผู้หญิงบาดเจ็บและเป็นแผลถลอกได้ เป็นผลให้มีเลือดออกและติดเชื้อตามมาได้ครับ ซึ่งปกติแล้วจะหายไปได้เองครับ เพียงแต่รักษาความสะอาด งดเพศสัมพันธ์ก่อน อาจลองใช้เจลหล่อลื่นที่ใช้ร่วมในช่วงสอดใส่อวัยะเพศ หรือ ใช้ถุงยางอนามัยซึ่งจะมีเจลหล่อลื่นอยู่ระดับหนึ่งครับ อาจช่วยทำให้ช่วงที่สอดใส่ไม่เจ็บได้ครับ หากมีอาการบวม แดง ร้อน หรือไม่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้องครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่เป็นไปได้ของเลือดออกผิดปกติหลังจากการมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจมาจากความผิดปกติบริเวณปากมดลูกหรือช่องทางคลอดครับ อาจเป็นรอยโรคที่บริเวณปากมดลูก เช่น ต่ิงเนื้อ (polyp) ปากมดลูกมีเนื้อเยื่อผิดปกติ เป็นต้นครับ ดังนั้น ควรมาตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อจะได้หาสาเหตุครับ ซึ่งอาการที่กล่าวมานั้นอาจมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะร่วมได้ด้วยนะครับโดยจะมีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อยและแสบขัดร่วมด้วยครับ ซึ่งอาจเกิดได้หากช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการถูหรือสัมผัสบริเวณท่อทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การล้างมือ และ ทำความสะอาดอวัยวะเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิงก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดอาการนี้ได้ สุดท้าย หากอาการนี้ยังมีอยู่หรือเป็นบ่อยๆ อาจทำให้มีการติดเชื้อที่ท่อและกรวยไตได้ครับ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะและรักษาให้ถูกต้องครับ

ส่วนหากเลือดที่ออกผิดปกติเป็นเลือดประจำเดือนหรือรอบผิดปกตินั้น ลักษณะประจำเดือนที่ผิดปกติ มาไม่เป็นรอบหรือไม่สม่ำเสมอ หรือ ระยะห่างระหว่างรอบไม่สม่ำเสมอนั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด หรือ เดินทางบ่อย เปลี่ยนแปลงสถานที่หรือการดำเนินขีวิต เป็นต้นครับ หากสาเหตุต่างๆนี้หายไปหรือดีขึ้น อาการประจำเดือนก็จะกลับมาปกติ แต่หากไม่ได้มีสาเหตุอย่างที่หมอกล่าวไป และ รอบประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ มาไม่เป็นรอบ หรือ ขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์แล้ว ก็ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรักษาตามสาเหตุจะดีกว่าครับ ไม่ควรไปทานยาอะไรก็ตามที่ต้องการให้มีเลือดประจำเดือนออกมาหรือเป็นการขับเลือดนะครับ เนื่องจากยาในกลุ่มนี้หากเป็นกลุ่มที่เป็นฮอร์โมน นอกจะไม่ช่วยให้ประจำเดือนมาเป็นรอบดี ยังส่งผลต่อทำให้ประจำเดือนผิดปกติ อาจมามาก มากะปริดกะปรอย หรือ ขาดหายไปนาน และไม่มาตามรอบนะครับ