กระดานสุขภาพ
มีอาการแสบๆปวดๆเจ้บ มีตุ่มหนองขึ้นที่อวัยวะเพศ | |
---|---|
16 เมษายน 2561 08:50:50 #1 สวัสดีค่ะคือหนูอยากจะมาถามเกี่ยวกับอาการที่หนูเป้น คือหนูมีอาการคันๆที่ช่องคลอดหนูก็เกปกติของหนู แต่พอหลังจากที่คันช่องคลอดแล้วผ่านมาสัก3-4วันมันมีอาการแสบๆเจ้บๆปวดๆที่อวัยวะเพศ หนูก็นึกว่าจะเป้รแบบปกติที่หนูเคยเป้น แต่ไม่ใช่เลย มันเริ่มลามขึ้นๆจนหนูแทบจะเดิน จะนั่งก็ไม่ไหว เวลาฉี่ก็จะมีอาการแสบๆรอบๆอวัยวะเพศ พอหนูเอากล้องโทสับมาถ่ายดูว่ามันเป้นอะไร ผลที่ถ่ายออกมาน่าตกใจมากกก!! คือมันเป้นแดงๆบวมๆที่ช่องคลอด แล้วก็มีแผลตรงแคมช่องคลอดสองฝั่ง มีตุ่งหนองๆด้วย หนูพยายามทำความสะอาดดดยใช้น้ำค่อยสาดแต่มันโดนน้ำแล้วรุ้สึกแสบปวดมากก แต่พอมาใช้น้ำเกลือล้างกลับไม่เป้นอะไร หนุควรไปหาหมอมั้ยค่ะ คือตอนนี้หนุเครียดมากกลัวมันเป้นโรคแล้วกลัวจะดดนตัดออก เพราะมันน่ากลัวมากมีตุ่มหนองด้วย แล้วก้มีตุ่มติ่งๆอยู่ระหว่างช่องคลอดกับทวารหนักด้วยค่ะ หนุควรทำอย่างไรดีค่ะ ตอนนี้มีตุ่มขึ้นที่ข้างๆทวารหนักด้วยค่ะ ขอปรึกษาหน่อยค่ะ |
|
อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.71 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์) |
16 เมษายน 2561 17:05:13 #2 เรียนคุณ ARaya017 ก่อนอื่น ทางเว็บฯขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ไว้ใจเว็บ haamor.com -เพื่อให้แพทย์ผู้ตอบคำถาม สามารถให้คำแนะนำในเบื้องต้นที่เหมาะสมกับคุณได้ ขอความกรุณาคุณช่วย "ถ่ายรูปเฉพาะตำแหน่งอาการ/รอยโรค/ผื่น ของคุณ แล้วส่งมาด้วยกับคำถาม -รูปที่ส่งมา ต้องไม่สามารถระบุตัวคุณได้(เป็นจรรยาบรรณ์แพทย์) คือ ขอคุณช่วยปกปิดใบหน้า แต่ถ้ารอยโรคอยู่บนใบหน้า ให้ปกปิดตาทั้ง๒ ข้าง ถ้า รอยโรคที่ตา ให้ปกปิดตาข้างที่ปกติ (คือถ่ายรูปเฉพาะตาข้างที่มีอาการ) พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์ วิธีการอัพโหลดรูปขึ้นเว็บเราสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ 1.นำรูปของคุณไปฝากไว้ที่เว็บฝากรูป เช่น http://upic.me (หรือเว็บฝากรูปอื่นๆ) 2.เอาลิ้งก์หรือ URL ที่ได้มาแปะในกระทู้ (กรณีที่คุณไม่สะดวกจะเปิดเผยรูป) หรือ จะใช้ปุ่ม Insert/Edit Image (ที่เป็นรูปต้นไม้ด้านล่าง) แล้วเอาลิ้งก์หรือ URL แปะเข้าไปในช่อง Image URL ก็ได้คะ หากคุณทำตามวิธีที่ 1 และ 2 แล้วยังไม่สามารถลงได้ สามารถส่งรูปของคุณมาได้ที่ info@haamor.com ค่ะ โดยส่งลิงค์กระทู้ หรือชื่อกระทู้มาด้วยนะคะ (ช่วยแจ้งในกระทู้ด้วยนะคะว่าส่งรูปมาแล้ว) ปล. ทางเรามีเพจ Facebook นะคะ หากท่านในมีปัญหา ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดต่อนะค่ะ https://www.facebook.com/haamor/ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
26 เมษายน 2561 09:12:39 #3 ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ ส่วนรื่องตุ่มหนองนั้น หมออาจตอบได้คร่าวๆจากการคาดเดานะครับ หากมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนและมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ อาจจะเป็นได้หลากหลายครับ ได้ตั้งแต่การอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันที่คล้ายกับหัวสิว อาจหากเองได้ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำไปครับ หรืออาจเป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เช่น เริม แผลริมอ่อนหรือริมแข็งก็ได้ครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้มาพบแพทย์นะครับ เพราะ โรคในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การตรวจรอยโรคครับ |
ARay*****7