กระดานสุขภาพ
ประจำเดือนขาด | |
---|---|
26 มีนาคม 2561 13:47:59 #1 สวัสดีค่ะ..คุณหมอที่เคารพ คือตอนนี้ประจำเดือนหนูขาดมา 26 วันแล้วค่ะ (ก่อนหน้านี้ไม่เคยมาช้าเกิน2วัน) เมื่อวันที่15 ไปตรวจปัสวะที่ รพ.รัฐ ใกล้บ้าน คุณหมอแจ้งว่าผลปกติไม่ได้ตั้งครรภ์ คือหนูมีอาการปวดท้องน้อยทั้ง2ข้างสลับกัน และปวดหลัง ปวดเมื่อยทั้งตัวเลยค่ะ มีอาการปวปวดหัวตื้อๆมึนงง ค่ะ ไม่เหมือนปวดตอนไม่สบาย และมีอาการเหนื่อยหอบเวลาเดินไวๆค่ะ ปกติไม่เคยเป็นเพราะเป็นคนโลดโผลนอยู่แล้วค่ะ ไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน มีแค่อาการเหมือนมีอะไรมาจุกตรงคอ มีเรอบ่อย ผายลมบ่อย ท้องผูก ปกติถ่ายตรงเวลาค่ะ เพราะเป็นคนชอบทานโยเกริตกับนมเปรี้ยว ตอนนี้ก็ยังทานนะคะ แต่ทำไมท้องผูก แบบนี้จะมีมีโอกาสตั้งครรภ์คะ แล้วทำไมถึงตรวจไม่พบ ถ้าไม่ได้ตั้งครรภ์จะเป็นโรคอะไรเกี่ยวกับภายในหรือมดลูกไหมคะ เพราะตอนนี้ที่ช่องคลอดเหมือนมีตกขาวตลอดแต่เป็นมูกใสๆค่ะ แต่คงไม่ใช่มูกไข่ตก เพราะเป็นมาหลายวันแล้วค่ะ เกินหนึ่งอาทิตย์ค่ะ รบกวนขอคำแนะนำจากคุณหมอ ว่าควรตรวจแบบไหนเพื่อให้ทราบผลที่แน่นอน เพราะจะซื้อยาน้ำสตรีมาทานให้ประจำเดือนมาปกติ ก็กลัวกำลังตั้งครรภ์ค่ะ(หนูแต่งานแล้ว และปล่อยมีลูกตามธรรมชาติค่ะไม่ได้ป้องกันค่ะ) |
|
อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
27 มีนาคม 2561 07:32:02 #2 ในกรณีที่คุณมีการป้องกันการตั้งครรภ์เป็นอย่างดีในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งก็ไม่ควรมีการตั้งครรภ์ค่ะ การที่รอบเดือนขาดหายไปอาจจะเป็นผลมาจาก การทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตก หรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ ที่ทางการแพทย์เรียกว่าภาวะ pcos (polycystic ovarian syndrome) ภาวะนี้ไข่จะไม่สามารถตกได้ตามปกติ เพราะร่างกายมีฮอร์โมนแอนโดรเจนมากและผิวรังไข่มีความหนาตัวมาก เมื่อไข่ไม่ตกจึงไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เพื่อไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจะมีความหนาตัวมากขึ้นด้วยเรื่อยๆ และไม่มีประจำเดือนมา คุณสามารถทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจน รับประทานนานประมาณ 7-10 วันรอบเดือนก็จะมาได้ค่ะ ทั้งนี้ ในช่วงที่รับประทานฮอร์โมนตัวนี้คุณจะต้องคุมกำเนิดโดยการสวมถุงยางอนามัยเป็นอย่างดี เพราะถ้ามีการตั้งครรภ์ในช่วงที่ทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจน ลูกอาจจะมีอวัยวะเพศกำกวมได้ค่ะ แต่ถ้าคุณไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์และต้องการปล่อยให้มีลูกตามธรรมชาติคุณจะต้องตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์ก่อน และผลการตรวจปัสสาวะนั้นจะเชื่อถือได้ถ้าได้ทำการตรวจหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ช่วงนี้ถ้าคุณพึ่งเริ่มมีเพศสัมพันธ์อาจจะไม่สามารถยืนยันเรื่องการตั้งครรภ์ได้ หมอแนะนำว่าคุณอาจจะต้องสวมถุงยางอนามัยไปก่อนแล้วรอให้ครบ 3 สัปดาห์หลังจากคุมกำเนิดอย่างดี มาทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์อีกครั้ง ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์ก็ค่อยหาซื้อฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนมารับประทานดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เพื่อให้ประจำเดือนมาได้ตามปกติค่ะ ส่วนอาการปวดศีรษะปวดเมื่อยทั้งตัว ปวดหลัง เหนื่อยหอบ อาการระบบทางเดินอาหารที่ไม่ปกติ ท้องผูกอาจจะเกิดจากความเครียดการดื่มน้ำน้อย หรือการทานอาหารที่มีรสเค็มจัดเกินไป จะทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ ควรดื่มน้ำให้มากขึ้น พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ ทำจิตใจให้สบาย อาการต่างๆ ที่พบน่าจะดีขึ้นได้เองค่ะ |
Anonymous