กระดานสุขภาพ

ผลข้างเคียงจากการส่องกล้อง
Anonymous

20 มีนาคม 2561 09:25:06 #1

ปรึกษาคะ ไปตรวจประจำปี ตรวจภายในตรวจมะเร็งปากมดลูก (รอฟังผล1สัปดาห์) และส่องกล้องคอลโปสโคปมาคะ ระหว่างการตรวจคุนหมอไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อไปนะคะ เพียงแต่ใช้ยาแล้วเช็ดไปเช็ดมาเท่านั้น หลังจากการตรวจ กลับมาบ้านเข้าห้องน้ำมีคราบสีน้ำตาลหรือสีแดงเปื้อน กกน.ไม่แน่ใจ เลยสงสัยว่าดังนี้คะ

1. สีไอโอดีนที่คุนหมอทา สามารถไหลมาเปื้อนกางเกงในได้มั้ยคะ ตอนตรวจคุนหมอไม่ได้เช็ดออกบอกแต่เพียงว่าเด่วมันจะออกเอง

2. ตอนใช้ทิชชูเช็ดพบว่ามีมูกปนเลือดออกมาคะ แบบนี้ถือเปนผลจากการส่องกล้องรึป่าวคะ

3.หรือว่าคราบที่เปื้อนกกน.จะเป็นเลือดที่เป็นผลจากการส่องกล้องคะ

อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 159ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.50 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

21 มีนาคม 2561 03:16:34 #2

ขอถามเพิ่มเติมคะ ผลการส่องกล้อง คุนหมอบอกว่ามีเซลผิดปกติแต่ไม่เยอะ ให้มาตรวจประจำปีแบบนี้ทุกปี ติดตามอาการไปเรื่อยๆ หมอบอกว่าปกติ90เปอเซน มันจะหายไปได้เอง เพียงแต่ต้องตรวจทุกปี 

เลยอยากทราบว่า 1. ควรดูแลตัวเองยังไงค่ะ ยังใช้ชีวิตปกติได้รึป่าว มีอาหารอะไรที่ห้ามกินมั้ยคะ

2. สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติมั้ยคะ จะมีผลอะไรมั้ย คือเราก้อกัวแต่ก้อกลัวมีปันหาครอบครัวคะ

3. ถ้าปีหน้าไปตรวจแล้วมันไม่หาย หรือเพิ่มขึ้น จะต้องรักษายังไงต่อไปคะ

ตอนนี้พยายามไม่กังวลและบางทีก้อยังอดคิดไม่ได้ กลัวเป็นมะเร็งคะ

Anonymous

21 มีนาคม 2561 03:40:20 #3

เรื่องเพศสัมพันธ์ ถ้ามีได้ปกติ เราจำเปนต้องใส่ทุกยางทุกครั้งมั้ยคะ เพาะสามีไม่ชอบใส่ถุงยาง ควรทำยังไงดีคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

21 มีนาคม 2561 05:52:22 #4

หมอคาดว่าคุณไปตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก และแพทย์สงสัยว่าคุณอาจจะมีเซลล์ที่ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูก คุณหมอจึงได้ทำการตรวจต่อด้วยการส่องกล้อง หรือการทำ colposcope ซึ่งวิธีนี้แพทย์จะใช้กล้องที่มีกำลังขยายสูงมากตรวจบริเวณปากมดลูกว่ามีลักษณะการเรียงตัวของ หลอดเลือด และลักษณะของเนื้อเยื่อ บริเวณปากมดลูกที่ผิดปกติหรือไม่ โดยก่อนที่จะทำการตรวจนั้นแพทย์จะต้องใช่น้ำยา ที่ประกอบด้วยสารไอโอดีนป้ายที่บริเวณปากมดลูก เพื่อให้เห็นการติดสีของหลอดเลือดที่มีการเรียงตัวผิดปกติได้ชัดเจนมากขึ้น ในกรณีที่เห็นลักษณะการเรียงตัวของหลอดเลือดหรือเนื้อเยื่อผิดปกติแพทย์ก็จะทำการตัดชิ้นเนื้อบริเวณนั้นไปส่งตรวจทางพยาธิวิทยาโดยให้ แพทย์เป็นผู้ประเมินว่ามีเซลล์ผิดปกติหรือไม่เพื่อที่จะได้ให้การรักษาคุณได้อย่างถูกต้องต่อไป หลังตรวจด้วยวิธีนี้จะมีสีของน้ำยาไหลปนเปื้อนออกมาที่บริเวณชุดชั้นในได้ และจะแห้งหายไปได้เอง บางรายอาจจะมีมูกปนเลือดออกมาได้เพราะมีการแต้มน้ำยาบริเวณนี้อาจจะทำให้หลอดเลือดเล็กๆมีการฉีกขาดจึงมีเลือดปนออกมา ซึ่งไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ประมาณ 24 ถึง 48 ชั่วโมงก็จะหายไปได้เองไม่ต้องกังวลค่ะ
________________________________________

Anonymous

21 มีนาคม 2561 07:05:22 #5

ตอนที่ส่องกล้อง ยังไม่ทราบผลตรวจมะเร็งปากมดลูกค่ะ เพิ่งจะไปตรวจมะเร็ง แต่คุนหมอส่องกล้องให้ด้วยคะ เหมือนตรวจประจำปีคะ แต่ ผลการส่องกล้อง คุนหมอบอกว่ามีเซลผิดปกติแต่ไม่เยอะ ให้มาตรวจประจำปีแบบนี้ทุกปี ติดตามอาการไปเรื่อยๆ หมอบอกว่าปกติ90เปอเซน มันจะหายไปได้เอง เพียงแต่ต้องตรวจทุกปี

เลยอยากทราบว่า 1. ควรดูแลตัวเองยังไงค่ะ ยังใช้ชีวิตปกติได้รึป่าว มีอาหารอะไรที่ห้ามกินมั้ยคะ

2. สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ปกติมั้ยคะ จะมีผลอะไรมั้ย จำเป็นต้องใส่ถุงยางมั้ยคะ พอดีสามีไม่ชอบใส่ถุงยางคะ คือเราก้อกัวแต่ก้อกลัวมีปันหาครอบครัวคะ

3. ถ้าปีหน้าไปตรวจแล้วมันไม่หาย หรือเพิ่มขึ้น จะต้องรักษายังไงต่อไปคะ

ตอนนี้พยายามไม่กังวลและบางทีก้อยังอดคิดไม่ได้ กลัวเป็นมะเร็งคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

22 มีนาคม 2561 05:52:28 #6

คุณสามารถดูแลตัวเองได้ตามปกติ ดำเนินชีวิตตามปกติ ในแต่ละวันรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ ออกกำลังกายตามสมควร เพียงเท่านี้ร่างกายคุณก็จะมีความปกติและแข็งแรงดี หลีกเลี่ยงความเครียด ทำใจให้สบายและไปตรวจประจำปีตามแพทย์นัดทุกครั้ง คุณสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติไม่มีผลแต่อย่างใด แต่ถ้ายังไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ก็สวมใส่ถุงยางอนามัย ซึ่งถือว่าเป็นวิธีที่ดี เพราะจะช่วยป้องกันการรับเชื้อ hpv ได้ด้วย แต่ถ้ากลัวเรื่องของปัญหาที่อาจจะตามมาเพราะแฟนไม่ชอบสวมใส่ถุงยางอนามัย ก็อาจจะต้องคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่นการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ในกรณีที่แพทย์ตรวจพบเชื้อ hpv ในตัวคุณการสวมใส่ถุงยางอนามัยจะเป็นวิธีที่ดีมากเพื่อป้องกันการรับเชื้อ hpv เพิ่มเติมจากสามี ต้องคุยกับสามีว่าคุณมีเชื้อนี้ในตัวถ้ายังไม่พร้อมที่จะมีบุตรการป้องกันการรับเชื้อเพิ่มเติมน่าจะเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการ เกิดเซลล์ผิดปกติที่บริเวณปากมดลูกค่ะ ถ้าคุณไปตรวจตามนัด อย่างที่แพทย์แนะนำตลอดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องมะเร็งปากมดลูกเพราะกว่าจะมีการกระจายไปเป็นมะเร็งจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 ถึง 5 ปีค่ะ
________________________________________

Anonymous

22 มีนาคม 2561 06:23:05 #7

ตอนนี้ทำหมันไปแล้วคะ มีลูก2คนแล้ว ถ้าสามีไม่ใส่ถุงยางก้อคงจะไม่เปนอะไรใช่มั้ยคะ

แล้วผู้ชายสามารถติดเชื้อนี้จากเราได้มั้ยคะ

Anonymous

22 มีนาคม 2561 06:28:37 #8

และถ้าสามีนอนกับเราแค่คนเดียว การไม่ใส่ถุงยางจะทำให้เราสามารถรับเชื้อเพิ่มขึ้นมั้ยคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

23 มีนาคม 2561 15:58:16 #9

ถ้าทำหมันแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องคุมกำเนิดโดยการสวมถุงยางอนามัยค่ะ แต่ถ้าต้องการสวมถุงยางเพื่อป้องกันการรับเชื้อ hpv เพิ่มเติมก็สามารถทำได้ ส่วนใหญ่เชื่อนี้ฝ่ายชายมักจะเป็นผู้นำมาให้ฝ่ายหญิง การสวมถุงยางจึงอาจจะลดปริมาณการรับเชื้อจากฝ่ายชายได้ การที่ใส่ชายนำเชื้อมาให้ฝ่ายหญิงอาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการมีเพศสัมพันธ์หลายคนที่เดียวแต่การมีเพศสัมพันธ์หลายครั้งก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการรับเชื้อที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถ้าคุณไปรับการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีอยู่แล้วก็ไม่ต้องกังวล อาจจะไม่มีความจำเป็นต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยค่ะ
________________________________________

Anonymous

23 มีนาคม 2561 23:36:32 #10

รบกวนอีกคำถามคะคุนหมอ ที่คุนหมออกว่าการมีเพศสัมพันหลายครั้งก้อเพิ่มความเสี่ยงเลยอยากทราบว่าถ้าสามีนอนกับเราแค่คนเดียว การไม่ใส่ถุงยางจะทำให้เราสามารถรับเชื้อเพิ่มขึ้นมั้ยคะ คือตอนนี้กัวจนบางครั้งจะกลายเปนปันหาของครอบครัวแล้วคะ บางทีก้อจะทะเลาะกันเลยคะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

26 มีนาคม 2561 03:55:15 #11

ในกรณีที่คู่นอนมีเชื้อ hpv ซึ่งอาจจะถ่ายทอดมาที่ตัวคุณได้การสวมถุงยางจะช่วยในการป้องกันการรับเชื้อเพิ่ม ถ้าคุณรู้สึกไม่มั่นใจอาจจะให้สามีไปตรวจหาเชื้อ hpv ด้วย ถ้าไม่พบเชื้อนี้ก็ไม่มีความจำเป็นต้องสวมใส่ถุงยางอนามัยค่ะ
________________________________________