กระดานสุขภาพ

เลือดออกระหว่างและหลังเพศสัมพันธ์
Anonymous

14 มีนาคม 2561 18:32:18 #1

สวัสดีค่ะ อายุ 30 ปกติจะมีประจำเดือนแค่ประมาน3-4วัน โดยวันที่4จะเป็นเลือดออกมาเล็กน้อยมากๆ หรือแทบจะไม่มีเลยแล้วแต่เดือน อาทิตย์ที่แล้วหนูมีเพศสัมพันธ์กับแฟนหลังประจำเดือนมาวันที่สามเนื่องจากบนผ้าอนามัยไม่มีเลือดแล้ว เลยคิดว่าแระจำเดือนหมด แต่หลังจากมีเพศสัมพันธ์มีเลือดแดงสดออกมา เข้าใจว่าเป็นเลือดค้าง วันรุ่งขึ้นก็ยังมีเลือกออกหลังเพศสัมพันธ์ เลยเว้น1วัน และมีเพศสัมพันธ์อีกทีวันถัดมา ก็ยังมีเลือดออกอยู่ระหว่างและหลังเสร็จกิจ อาการอื่นๆก็มีรู้สึกแสบข้างในช่องคลอด (ถ้านับจากวันที่มีประจำเดือนวันแรกก็เป็นวันที่7แล้ว) แฟนบอกว่าอาจจะเป็นเพราะเค้าทำแรงไป แล้วก็ก่อนมีอะไรกันเค้าใช้นิ้วให้ด้วยค่ะ แล้วก็พอดีหนูมีแผลปริฉีกขาดตรงฝีเย็บอยู่นิดหน่อยอยู่เเล้ว อยากทราบว่าเลือดแดงสดที่ออกมาจะเป็นเลือดประจำเดือนที่ค้างอยู่ในมดลูกหรือป่าวคะ หรือเกิดจากสาเหตุอื่น และจะเป็นอันตรายอะไรไหมคะ (ก่อนหน้านี้เคยเป็นเริมและเชื้อราในช่องคลอดด้วยค่ะ)
อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.28 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

18 มีนาคม 2561 12:42:30 #2

จากอาการที่มีเลือดออกหลังจากเพศสัมพันธ์และออกมาจากช่องคลอดนั้น อาจมีสาเหตุหลักๆได้สองประการครับ คือ มีสาเหตุมาจากการมีเพศสัมพันธ์นะครับ คือ มีปัญหาในช่วงการสอดใส่ ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการสอดใส่ที่รุนแรงหรือมีน้ำหล่อลื่นค่อนข้างน้อย หรือ มีช่องคลอดอักเสบอยู่ อาจทำให้เยื่อบุข่องคลอดของผู้หญิงบาดเจ็บและเป็นแผลถลอกได้ เป็นผลให้มีเลือดออกและติดเชื้อตามมาได้ครับ ซึ่งปกติแล้วจะหายไปได้เองครับ เพียงแต่รักษาความสะอาด งดเพศสัมพันธ์ก่อน อาจลองใช้เจลหล่อลื่นที่ใช้ร่วมในช่วงสอดใส่อวัยะเพศ หรือ ใช้ถุงยางอนามัยซึ่งจะมีเจลหล่อลื่นอยู่ระดับหนึ่งครับ อาจช่วยทำให้ช่วงที่สอดใส่ไม่เจ็บได้ครับ หากมีอาการบวม แดง ร้อน หรือไม่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ ก็ควรมาพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาอย่างถูกต้องครับ ส่วนสาเหตุอื่นๆที่เป็นไปได้ของเลือดออกผิดปกติหลังจากการมีเพศสัมพันธ์นั้นอาจมาจากความผิดปกติบริเวณปากมดลูกหรือช่องทางคลอดครับ อาจเป็นรอยโรคที่บริเวณปากมดลูก เช่น ต่ิงเนื้อ (polyp) ปากมดลูกมีเนื้อเยื่อผิดปกติ เป็นต้นครับ ดังนั้น ควรมาตรวจภายในกับสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อจะได้หาสาเหตุครับ ซึ่งอาการที่กล่าวมานั้นอาจมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะร่วมได้ด้วยนะครับโดยจะมีอาการปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อยและแสบขัดร่วมด้วยครับ ซึ่งอาจเกิดได้หากช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการถูหรือสัมผัสบริเวณท่อทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การล้างมือ และ ทำความสะอาดอวัยวะเพศทั้งผู้ชายและผู้หญิงก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดอาการนี้ได้ สุดท้าย หากอาการนี้ยังมีอยู่หรือเป็นบ่อยๆ อาจทำให้มีการติดเชื้อที่ท่อและกรวยไตได้ครับ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจปัสสาวะและรักษาให้ถูกต้องครับ ส่วนการใช้นิ้วสอดใส่ไปในช่องคลอดนั้น ปกติแล้วมีโอกาสน้อยมากครับที่จะทำให้มีอาการปวดท้องน้อยหรือตกขาวที่เป็นอาการของการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน แต่หากมีการสอดใส่นิ้วที่ไม่สะอาดหรือมีอุปกรณ์อื่นๆเข้าไปในช่องคลอด อาจทำให้มีเลือดออกมาได้ อาจมีอาการปวดในช่องคลอด หรือหากถ้ามีอาการมาก ก็อาจมีอาการที่หมอกล่าวไปได้ ดังนั้น หมอแนะนำ ให้สังเกตุอาการก่อนได้ครับ หากมีอาการปวดท้องน้อยหน่องๆไปช่องคลอด หรือ อุ้งเชิงกราน มีตกขาวหรือเลือดออกร่วมด้วย ให้ไปพบแพทย์นะครับ และ ทุกครั้งที่มีการสอดใส่นิ้วก็ควรทำความอวัยวะเพศ ล้างมือและตัดเล็บให้สั้น เพื่อลดโอกาสดังกล่าวครับ

ในเรื่องของอาการตกขาวที่มากขึ้นนั้น ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

หมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นควรใช้เมื่อกรณีฉุกเฉินเท่านั้นครับ ไม่ควรมาใช้บ่อยๆ เพราะ นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพลดต่ำลงแล้ว ยังทำให้เลือดประจำเดือนผิดปกติได้อีกครับเรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ