กระดานสุขภาพ
บวมที่อวัยวะเพศหญิงฝั่งขวา | |
---|---|
5 มีนาคม 2561 15:47:04 #1 เริ่มมีอาการตุ่มแดงๆที่แคมนอกเมื่อวาน สามวันที่แล้วไปทำกิจกรรมเต้นและใส่กางเกงในรัดเป็นเวลานาน ไปหาหมอมาวันนี้หมอบอกว่าเป็นเพราะการเสียดสี อาการตอนนี้คือบวมกว่าอีกฝั่ง แดง ถ้าไปกดๆมันจะเจ็บ หมอไม่ได้ให้ยาอะไรมาทานค่ะ ไม่ทราบว่าอาการที่เป็นคือเป็นเพราะการเสียดสีจริงๆรึเปล่าคะ เพราะเป็นคนทำกิจกรรมเต็มที่ตลอดแต่ก็ไม่เคยเป็น กลัวไม่หายอ่ะค่ะ http://haamor.com/media/images/webboardpics/PooPee1234-42167-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/PooPee1234-42167-2.jpg |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.96 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์(วว.รังสีรักษา และเวชศาสตร์นิวเคลียร์) |
6 มีนาคม 2561 08:28:43 #2 เรียนคุณ ก่อนอื่น ทางเว็บฯขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่ไว้ใจเว็บ haamor.com -เพื่อให้แพทย์ผู้ตอบคำถาม สามารถให้คำแนะนำในเบื้องต้นที่เหมาะสมกับคุณได้ ขอความกรุณาคุณช่วย "ถ่ายรูปเฉพาะตำแหน่งอาการ/รอยโรค/ผื่น ของคุณ แล้วส่งมาด้วยกับคำถาม -รูปที่ส่งมา ต้องไม่สามารถระบุตัวคุณได้(เป็นจรรยาบรรณ์แพทย์) คือ ขอคุณช่วยปกปิดใบหน้า แต่ถ้ารอยโรคอยู่บนใบหน้า ให้ปกปิดตาทั้ง๒ ข้าง ถ้า รอยโรคที่ตา ให้ปกปิดตาข้างที่ปกติ (คือถ่ายรูปเฉพาะตาข้างที่มีอาการ) พญ. พวงทอง ไกรพิบูลย์ _____________________________________
วิธีการอัพโหลดรูปขึ้นเว็บเราสามารถทำได้ดังนี้ค่ะ 1.นำรูปของคุณไปฝากไว้ที่เว็บฝากรูป เช่น http://upic.me (หรือเว็บฝากรูปอื่นๆ) 2.เอาลิ้งก์หรือ URL ที่ได้มาแปะในกระทู้ (กรณีที่คุณไม่สะดวกจะเปิดเผยรูป) หรือ จะใช้ปุ่ม Insert/Edit Image (ที่เป็นรูปต้นไม้ด้านล่าง) แล้วเอาลิ้งก์หรือ URL แปะเข้าไปในช่อง Image URL ก็ได้คะ หากคุณทำตามวิธีที่ 1 และ 2 แล้วยังไม่สามารถลงได้ สามารถส่งรูปของคุณมาได้ที่ info@haamor.com ค่ะ โดยส่งลิงค์กระทู้ หรือชื่อกระทู้มาด้วยนะคะ (ช่วยแจ้งในกระทู้ด้วยนะคะว่าส่งรูปมาแล้ว) ปล. ทางเรามีเพจ Facebook นะคะ หากท่านในมีปัญหา ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการติดต่อนะค่ะ |
PooP*****4 |
6 มีนาคม 2561 13:54:22 #3 https://www.picz.in.th/image/SzNHJ |
PooP*****4 |
6 มีนาคม 2561 13:55:48 #4 |
PooP*****4 |
6 มีนาคม 2561 13:58:03 #5 |
PooP*****4 |
6 มีนาคม 2561 13:58:47 #6 https://www.picz.in.th/image/SzNHJt |
PooP*****4 |
6 มีนาคม 2561 15:25:56 #7 http://www.temppic.com/img.php?06-03-2018:1520349725_0.48473400.jpghttp://www.temppic.com/img.php?06-03-2018:1520349725_0.48473400.jpg |
Haamor Admin(Admin) |
7 มีนาคม 2561 07:14:58 #8 ขออภัยค่ะ มีรูปที่ชัดกว่านี้ไหมคะ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
7 มีนาคม 2561 13:15:12 #9 ถ้าคุณไปรับการตรวจโดยแพทย์เรียบร้อยแล้ว แพทย์แจ้งว่า เกิดจากการเสียดสีก็น่าจะต้องเชื่อคุณหมอ เพราะอาจจะทำให้อวัยวะเพศมีอาการบวมเจ็บ และเกิดการอักเสบได้ อย่างไรก็ตามคุณควรใส่เสื้อผ้าที่บางเบาไม่รัดแน่น และทายา รับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำซึ่งไม่ได้มีอันตรายแต่อย่างใด ควรสังเกตอาการไปก่อนถ้ารักษาตามที่แพทย์แนะนำแล้วอาการเป็นมากขึ้นหรือไม่ดีขึ้นก็ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอีกครั้งค่ะ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
9 มีนาคม 2561 04:13:14 #10 ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ อีกสาเหตุที่เป็นไปได้ หากเป็นเพียงข้างเดียว และมีอาการก้อนๆนิ้ม กดเจ็บเล็กน้อย เป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่ง บริเวณ 5 หรือ 7 นาฬิกา และ ไม่ได้มีอาการผิดปกติอื่นอะไร เช่น เลือดออกผิดปกติ หรือ ตกขาวผิดปกติ ก็อาจจะเป็น บาร์โธลินซีสต์ (Bartholin cyst) เท่านั้นครับ แต่หากมีอาการ กดเจ็บ แดง ร้อน อาจเป็นการอักเสบหรือเป็นหนอง (Bartholin abscess) ครับ ซึ่งหากมีอาการบวมมาก จนมีไข้ ปัสสาวะไม่ออก จำเป็นต้องไปพบแพทย์ทันทีครับ เพื่ออาจต้องได้รับยาปฏิชีวนะในโรงพยาบาลและอาจต้องระบายหนองออกด้วยครับ ซึ่งปกติแล้ว ต่อมบาร์โธลินนั้นเป็นต่อมอย่างหนึ่งมีหน้าที่สร้างสารคัดหลั่งครับและอยู่ในต่ำแหน่งที่ต้องใกล้ช่องคลอดและท่อปัสสาวะคือจะทำให้ติดเชื้อซ้ำได้ง่าย ดังนั้น ช่วงนี้ควรต้องรักษาความสะอาด งดเพศสัมพันธ์ก่อนครับ ทั้งหมดนี้ เกิดจากหมดคาดเดาจากอาการข้างต้นเท่านั้นนะครับ หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องนะครับ |
PooP*****4