กระดานสุขภาพ

จะเป็นไรไหมครับ
Sutt*****1

5 มีนาคม 2561 10:12:20 #1

คือผมมีเพศสัมพันธ์กลับแฟนวันที่5 มีนาคม แล้วตอนเส็จผมได้ดึงอวัยวะเพศผมออกมาแล้วถอดถุง แล้วมันมีน้ำไหลลงมาติดที่อวัยวะเพศแฟนผม แต่ไม่ได้เข้าไปถึงข้างในช่องคลอด แต่อยู่ในเส้น หมอย #ขอโทดที่ใช่คำไม่สุภาพครับ แล้วผมก้เช็ดด้วยผ้าเช็ดแบบว่า ไม่ไห้โดนอวัยวะเพศแฟน คือเอาผ้าเช็ดเสยขึ้น มันจะเป็นไรไหมครับ ปจดครั้งที่แล้ว แฟนผมมา16 กุมพาพันธ์ รอบเดือน32 จะเป็นอะไรไหมครับ แล้ววันที่5 มีนาคมนี้ ผมมีเพศสัมพันธ์3ครั้ง ครั้งแรกแตกข้างในถุง ผมดึงออกมาแล้วแตกในถุง แล้วผมไปล้าง แล้วครั้งที่2ก้แตกในถุง ผมก้เช็ดต่ไม่ได้ล้าง เอาผ้ามาชุบแล้วก้เช็ดเอา การที่ผมทำแบบนี้จะเป็นอะไรหรือป่าวครับ แล้วครั้งที่3 ผมก้ดึงออกมา แล้วถอดถุง แล้วก้แตก แต่มันหยดลงไปที่หมอย แฟนผม ที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ มันจะเป็นอะไรหรือป่าวครับ เพราะที่ผ่านมา ไม่เป็นแบบนี้ #ขอโทดที่ใบ่คำไม่สุภาพครับ
อายุ: 15 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 52 กก. ส่วนสูง: 155ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.64 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Sutt*****1

5 มีนาคม 2561 14:11:39 #2

เพิ่มเติมครับหมอ ปจด แฟนผมมาไม่ตรงกันทุกครั้ง บางที ก้28 29 30 31 32 ครับ
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

9 มีนาคม 2561 04:12:05 #3

หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้น มีการใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี สวมใส่ถุงยางอนามัยก่อนสอดใส่อวัยวะเพศ ถือว่า เป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพครับ ไม่ทำให้ตั้งครรภ์ครับ สบายใจได้ ส่วนในกรณีที่อาจมีน้ำหล่อลื่นติดถุงยางไปนั้นหรือไหลลงมาติดอวัยวะเพศนั้น เรื่องนี้ไม่ทำให้ตั้งครรภ์นะครับสบายใจได้ อย่างไรก็ตามหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ