กระดานสุขภาพ

คันอวัยวะเพศ มีตุ่มแดงเล็กๆขึ้นที่จาหนีบ
Anonymous

15 กุมภาพันธ์ 2561 14:15:51 #1

ดิฉันมีการคันหลังจากหมดประจำเดือน2อาทิตย์คะ มีอาการคันมา3วันแร้วคะที่คันมากๆนะคะ และยังมีตุ่มแดงเล็กๆจึ้นที่ขาหนีบอีกด้วย ดิฉันเคยคันแบบนี้มาก่อนคะตอนนั้นคันมาหลายเดือนแต่ยังไม่เอะใจจนมันคันจนทนไม่ไหวจึงได้ไปพบแพทย์จึงทราบว่าเป็น หูดหงอนไก่คะ แต่ตอนนี้ดิฉันจี้จนหมดแล้วคะและระหว่างการรักษาหูดหงอนไก่ คุณหมอก็ได้จ่ายค่า รักษาเชื้อราคะแบบสอดนะคะ ตอนที่ใช้ยานี้รักษาอาการคันก็กายไปคะหายไปจนพึ่งกลับมาเป็นตอนนี้คะ หายคันได้ประมาณ2เดือนคะ อยากจะถามคุณหมอว่า 1.อาการคันทาี่อวัยวะเพศที่แคมเกิดจากอะไรคะ 2.ตุ่มแดงเล็กๆเกิดจากอะไร 3.อาการที่เป็นมีสิทธิ์จะกลับไปเป็นหูดอีกมั้ยคะ อีกอย่างคะ ก่อนหน้าที่จะคันประมาณ1เดือนคะหลังจากรักษาหูดหาย ดิฉันเจ็บตรงเม็ดคะข้างซ้ายของดิฉันเจ็บและสีแดงโดนไม่ได้เลยคะ ส่วนข้างขวาไม่เจ็บปกติคะและช่องนี้ที่มีอาการคันกับตุ่มแดงเล็กๆขึ้นนั้น มีตกขาวคะ เมื่อเดือนที่แล้วดิฉันกินยาปรับฮอร์โมนด้วยจะเกี่ยวไหมคะ
อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 57 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.94 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

16 กุมภาพันธ์ 2561 16:48:14 #2

อาการคัน ร่วมกับมีตกขาวผิดปกติมักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อรา ในกรณีที่คุณเคยเป็นหูดหงอนไก่มาก่อนก็มีโอกาสที่จะกลับเป็นซ้ำได้อีกเพราะหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อไวรัส hpv ชนิดที่ 6 และ 11 ซึ่งในกรณีที่มีไวรัสนี้อยู่ในตัว ก็มีโอกาสที่จะกลับเป็นซ้ำได้อีกอย่างแน่นอน ถ้าภูมิต้านทานในร่างกายลดลง โรคนี้เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ถ้าแฟนมีเชื้อ hpv ในตัวด้วย ก็มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อสะสมไปมาไม่สิ้นสุด ดังนั้น ควรทำร่างกายให้แข็งแรงหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก และ ควรสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อป้องกันการรับเชื้อเพิ่มเติม ส่วนอาการคันและมีเม็ดตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศ อาจจะเกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งสามารถรักษาโดยการทายาภายนอกเพื่อบรรเทาอาการคันและสอดยาทางช่องคลอดเพื่อรักษาการติดเชื้อราในช่องคลอดด้วย การทานยาปรับฮอร์โมนไม่มีผลต่อการเกิดเชื้อราค่ะ ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่ามีการติดเชื้อใดควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจะได้รับการรักษาอย่างถูกต้องต่อไปค่ะ
________________________________________