กระดานสุขภาพ

กินยาคุมเพื่อรักษาถุงน้ำ
Anonymous

2 กุมภาพันธ์ 2561 15:03:22 #1

พอดีหนูได้ไปซาวรังไข่มา หมอแนะนำให้ทานยาคุมเพื่อให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ ซึ่งก่อนหน้าหนูได้ทานยาปรับแบบ 12 วัน หมอบอกว่าให้ทานยาคุมดีกว่า แต่กนูทานได้ประมาณอาทิตย์นึงมีอาการเจ็บเต้านม หนูเคยเป็นก้อนเนื้อธรรมดาที่เต้านมแต่ได้ผ่าออกไปแล้ว อยากถามคุณหมอว่าแบบนี้ถ้าเราทานยาคุมมันจะกระตุ้นก้อนเนื้อที่เคยเป็นไหมคะ แบบนี้หนูควรทานยาคุมหรือยาปรับดีกว่าคะ ต้องทานยาคุมประมาณกี่เดือนคะ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8eae6-41513-1.jpeg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8eae6-41513-2.jpeg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8eae6-41513-3.jpeg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8eae6-41513-4.jpeg

อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 64 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.15 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

2 กุมภาพันธ์ 2561 15:47:58 #2

https://uppicimg.com/file/Vbg3q1Cw.jpeg https://uppicimg.com/file/eIa9iUX7.jpeg https://uppicimg.com/file/YEIwBqVL.jpeg https://uppicimg.com/file/8NAjTbXU.jpeg
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

4 กุมภาพันธ์ 2561 05:49:33 #3

จากประวัติที่คุณบอกมาเข้าใจว่าคุณหมอที่โรงพยาบาลได้ให้การวินิจฉัยคุณว่ามีภาวะกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่หรือ PCOS (Poly cystic ovarian Syndrome) ซึ่งภาวะนี้ จะ เห็น ฟองไข่มากมายอยู่ในรังไข่ จากการตรวจอัลตราซาวด์ ซึ่งภาวะนี้ ผิวรังไข่จะมีความหนาตัวมาก จนไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติเมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจําเดือน ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจึงมีความหนาตัวมากขึ้นด้วยเรื่อยๆ ถ้ารอบเดือนไม่มาตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ นอกจากนี้ ผิวรังไข่ที่มีความหนาตัวมากจะมีการสร้างฮอร์โมนแอนโดรเจน
และทำให้เกิดอาการสิวมากหน้ามันขนดกมีหนวดเคราขนหน้าแข้งมากได้ ดังนั้นแพทย์มักจะรักษาโดยให้คุณมีรอบเดือนมาตามปกติการรักษานั้นสามารถรักษาได้ 2 ทางคือการทานยาเม็ดคุมกำเนิดและการทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจน สำหรับการทานยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นส่วนใหญ่ก็มีวัตถุประสงค์อื่นร่วมด้วย เพื่อรักษาอาการสิวเยอะหน้ามันขนดกมีหนวดมีเคราขนหน้าแข้งมากเป็นต้น เพราะยาคุมบางชนิดจะมีฤทธิ์ต้านฮอร์โมนแอนโดรเจนร่วมด้วย ดังนั้นคุณควรปรึกษาแพทย์อีกครั้งในเรื่องของการรักษาการทานยาคุมกำเนิดที่คุณทานอยู่ก็เป็นอีกทางหนึ่งในการรักษาภาวะนี้ได้เช่นกันค่ะ
________________________________________