คุณมีน้ำหนักตัวมากถึง 130 กิโลกรัมจึงมีความเสี่ยงสูงมากต่อการเกิดภาวะกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า (pcos) polycystic ovarian Syndrome ซึ่งภาวะนี้มักจะพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมาก ซึ่งไขมันจะไปพอกที่ผิวรังไข่มากทำให้ไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ไปเปลี่ยนให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือนผนังเยื่อบุโพรงมดลูกจึงมีความหนาตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ประจำเดือนไม่มาและยังทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกได้ ถ้ารอบเดือนขาดหายไปนานเกิน 3 เดือนขึ้นไป การรักษาจะต้องรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนซึ่งสามารถทานได้รอบเดือนละ 10 วัน ฮอร์โมนตัวนี้จะไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกออกมาเป็นประจำเดือน หรือคุณอาจจะทานเป็นยาเม็ดคุมกำเนิดก็ได้ซึ่งการทานยาคุม จะมีอยู่ 2 ประเภทคือชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง 30-35 ไมโครกรัมและชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำคือ 15 ถึง 20 ไมโครกรัม ในกรณีที่ทานฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำอาจจะทำให้เกิดอาการข้างเคียงคือเลือดออกผิดปกติกระปริบกระปรอยได้ แต่จะไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเหมือนการทานยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้คุณมีเลือดออกผิดปกติปริมาณมาก คุณควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์ด้วยจะดีที่สุด เพราะแพทย์จะได้ประเมินความหนาของผนังเยื่อบุโพรงมดลูกและรังไข่ว่ามีความผิดปกติอื่นใดหรือไม่ ถ้าผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวมากคุณอาจจำเป็นที่จะต้องได้รับการขูดมดลูก เพื่อวินิจฉัยภาวะผิดปกติในผนังเยื่อบุโพรงมดลูกโดยเฉพาะภาวะมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งจะทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติกะปริบกระปรอยหรือมีปริมาณมากได้ ทางที่ดีหมอแนะนำว่าคุณควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์ก่อนจะได้รับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างถูกต้องต่อไปจะดีที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดอาการหรือภาวะที่รุนแรงค่ะ