ยาคุมฉุกเฉิน ก็คือ ฮอร์โมนโปรเจสโตเจนจะทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวไม่เหมาะต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และมีผลทำให้ไข่ไม่ตก รอบเดือน จึงอาจจะมาไม่ปกติได้หลังทานยาคุมฉุกเฉินและอาจจะมีผลทำให้มีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้หลังทานยา เลือดที่ออกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมจึงน่าจะเป็นผลมาจากการทานยาคุมฉุกเฉิน ส่วนรอบเดือนที่มาในช่วงวันที่ 13 กันยายนน่าจะเป็นประจำเดือน ในกรณีที่คุณมีการคุมกำเนิดเป็นอย่างดีทุกครั้ง ที่มีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น จึงไม่ควรมีการตั้งครรภ์ เลือดสีน้ำตาลที่ออกมาในช่วงวันที่ 15 ถึง 18 ตุลาคมนั้นน่าจะเป็นเลือดที่ออกผิดปกติทางช่องคลอด ไม่เกี่ยวกับการทานยาคุมฉุกเฉิน แต่น่าจะเกิดจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติ เช่น ภาวะไข่ไม่ตกหรือเป็นกลุ่มอาการถุงน้ำที่รังไข่ที่เรียกว่า PCOS Poly cystic ovarian Syndrome) ซึ่งภาวะนี้รังไข่จะไม่มีการตกไข่ตามปกติ ทำให้ขาดการสร้างฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนซึ่งจะทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุกและหลุดลอกออกมาเป็นประจําเดือน เมื่อผนังเยื่อบุโพรงมดลูกไม่ลอกออกมาเป็นประจำเดือนจะมีความหนาตัวมากจนทำให้เกิดอาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดได้ ถ้าคุณตรวจปัสสาวะแล้วไม่พบการตั้งครรภ์น่าจะทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอน และสามารถทานฮอร์โมนโปรเจสโตรเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนเป็นปกติได้ค่ะ โดยสามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยา หรือไปพบแพทย์เพื่อรับฮอร์โมนมาทานได้ค่ะ

การทานฮอร์โมนเพื่อควบคุมรอบเดือนให้เป็นปกติจะมีประโยชน์ ในการ รักษาไม่ให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวมากเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดมะเร็งของผนังเยื่อบุโพรงมดลูก ควรแนะนำให้แฟนไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจอัลตราซาวด์ และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปจะดีที่สุด เพราะถ้ามีเลือดออกผิดปกติอยู่เรื่อยๆ จะไม่สามารถ ทำนายรอบเดือนที่ปกติได้ ถ้ามีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันการตั้งครรภ์ก็จะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เช่นกันค่ะ