กระดานสุขภาพ
มีตุ่มใสๆขึ้นเป็นกลุ่มๆที่ช่องคลอด | |
---|---|
25 ตุลาคม 2560 19:09:36 #1 มีแฟนมาหลายคนค่ะ ครั้งล่าสุดมีเพศสัมพันธ์กับแฟนแล้วเป็นเริมค่ะแต่กินขาตอนนี้หายแล้ว แต่รู้สึกว่ายังมีตุ่มใสๆขึ้นเป็นกลุ่มแล้วก็มีตกขาวเป็นก้อนๆข้างใน อยากรู้ว่าเป็นอันตรายหรือป่าวคะ เพราะทุกทีจะใส่ถุงยางแต่ล่าสุดไม่ได้ใส่ ใช่มะเร็งปากมดลูกหรือป่าวเครียดมากค่ะ |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.81 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
26 ตุลาคม 2560 19:40:22 #2 ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ ส่วนหากตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ ส่วนเรื่องการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์นั้น ถุงยางอนามัยก็ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมดนะครับ และเรื่องมะเร็งปาดมดลูกนั้น ปกติแล้วอาการของมะเร็งปากมดลูกนั้นอาจมีตั้งแต่ไม่มีอาการอะไร หรือ ตรวจพบจากการตรวจภายในหรือมีอาการเลือดออกและตกขาวหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามะเร็งปากมดลูกนั้นประมาณ 98% มีสาเหตุเกิดจากไวรัส HPV ที่ติดบริเวรปากมดลูกครับ ซึ่งติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งไวรัสนี้มีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์ทำให้เกิดรอยโรคที่เรียกว่าหูดหงอนไก่ครับ อาจเป็นได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และบางสายพันธุ์ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ครับ แต่ปกติแล้วร่างกายเราสามารถกำจัดไวรัสพวกได้นี้ แต่หากมีการติดเชื้อนี้บ่อยๆ เช่น มีคู่นอนหลายคน เพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือมีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น ทำให้มีโอกาสที่จะผิดปกติเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มากครับ ดังนั้น ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์แบบใดก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV นี้ได้ครับ ซึ่งผู้ชายอาจทำให้เกิดหูดหรือมะเร็งที่ทวารหนักได้เช่นกันครับ ดังนั้น ปกติแล้วที่เราตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือตรวจเชื้อไวรัสนี้นั้น ถือว่าเป็นวิธีคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกได้ดีมากๆ หากตรวจทุกๆปี เราจะสามารถตรวจระยะก่อนมะเร็งได้ทำให้สามารถรักษาได้หายขาดครับ ส่วนอีกเรื่องคือ การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV นั้น จะเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ดีมากๆเช่นกันครับ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
26 ตุลาคม 2560 19:40:33 #3 เพิ่มเติมครับ ส่วนในเรื่องของตุ่มใสๆนั้น หมออาจตอบได้คร่าวๆจากการคาดเดานะครับ หากมีประวัติการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนและมีแผลบริเวณอวัยวะเพศ อาจจะเป็นได้หลากหลายครับ ได้ตั้งแต่การอักเสบของต่อมขนหรือต่อมไขมันที่คล้ายกับหัวสิว อาจหากเองได้ถ้าไม่มีการติดเชื้อซ้ำไปครับ หรืออาจเป็นการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์เช่น เริม แผลริมอ่อนหรือริมแข็งก็ได้ครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้มาพบแพทย์นะครับ เพราะ โรคในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การตรวจรอยโรคครับ |
Anonymous