กระดานสุขภาพ
ช่องคลอดมีกลิ่น และมีเลือดออก | |
---|---|
15 ตุลาคม 2560 13:54:27 #1 ครั้งแรก เมื่อเดือน 9 มีอาการช่องคลอดมีกลิ่นหลังหมดเม็นได้ 2 วัน เภสัชกรแนะนำให้ใช้ยาสอด Clotriderm 100 mg. วันละเม็ดติดต่อกัน 2 วัน หายจากอาการ ครั้งล่าสุด เดือน 10 มีอาการดังนี้ค่ะ วันที่ 1 เป็นเม็นวันสุดท้าย วันที่ 3 ช่องคลอดมีกลิ่น วันที่ 4 ใช้ยาสอดตัวเดิม แค่วันเดียวหายจากอาการ จึงกยุดยา วันที่ 7 มีเพศสัมพันธ์ วันที่ 8 ช่องคลอดมีกลิ่น (กลิ่นเบากว่าวันที่ 3) เลยใช้ยาสอด 1 วัน หายจากอาการก็หยุดยา วันที่ 11 ช่องคลอดมีกลิ่นอีกแล้ว (กลิ่นเบากว่าวันที่ 8) เลยสันนิษฐานเองว่าน่าจะยาไม่ถึงโดส เพราะเภสัชกรบอกให้ใช้ยาสอด 2 วัน ติดต่อกัน แต่เราใช้แค่วัยเดียวพอกลิ่นหายก็เลิกใช้ ครั้งนี้จึงใช้ยาติดต่อกัน 2 วัน (วันที่ 11 , 12) หายจากอาการ วันที่ 14 (ช่วงไข่ตกพอดี) ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง มีเลือดสีแดงไหลนิดหน่อย ผ่านไปประมาณ 20 นาที มีมูกเลือดสีน้ำตาลไหลออกมานิดหน่อย(ไม่มีกลิ่น) วันที่ 15 เวลาประ.มาณ 2 ทุ่ม มีเลือดสีแดงไหลออกมาอีดนิดหน่อย คำถามที่ 1 กังวลว่าจะเป็นมะเร็งปากมดลูก คำถามที่ 2 เป็นไปได้มั้ยว่ากลิ่นเหม็นเกิดจากการติดเชื้อรา และเลือดออกเกิดจากฮอร์โมนตกในช่วงไข่ตกพอดี เพราะก่อนเลือดออก 3 วัน ได้อดอาหารลดความอ้วนทานมื้อเย็นมื้อเดียวและนอน ตี 5 ตื่นสายๆ ถึงเที่ยง เป็นสาเหตให้ฮอร์โมนตกหรือไม่ คำถามที่ 3 ถ้าไปตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกแล้วไม่ได้เป็นมะเร็ง อายุ 41 แล้ว สามารถฉีดวัคซีน HPV ได้มั้ย |
|
อายุ: 41 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 89 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 30.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
15 ตุลาคม 2560 14:02:16 #2
เพิ่มเติมอาการค่ะ ก่อนมีเลือดไหล จะเข้านอนตี 5 ตื่นสายๆ-เที่ยงติดต่อทั้ง 3 วันเลยค่ะ
|
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
16 ตุลาคม 2560 07:46:31 #3 อาการช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นส่วนใหญ่มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยเฉพาะเป็นแบคทีเรียกลุ่มไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งจะทำให้กลิ่นเหม็นรุนแรงเหมือนปลาเน่า ไม่น่าจะเกิดจากการติดเชื้อราเพราะคุณไม่มีอาการคันหรือมีตกขาวผิดปกติลักษณะเหมือนนมบูด ดังนั้น การรักษาอาการติดเชื้อแบคทีเรีย จะต้องใช้ยาเฉพาะกลุ่มเมโทรนิดาโซลและยาสอดทางช่องคลอดอีกกลุ่มหนึ่งซึ่งไม่ใช่กลุ่มที่เป็นยาต้านเชื้อรา ยาที่คุณใช้นั้นเป็นยาต้านเชื้อราอาการจึงไม่น่าจะดีขึ้นได้ การติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณช่องคลอดเป็นเวลานานอาจจะทำให้ปากมดลูกมีการอักเสบและมีเลือดออกผิดปกติออกมาได้ ดังนั้น เพื่อที่จะได้รับการตรวจวินิจฉัยที่แน่นอนคุณควรไปพบแพทย์ เพื่อที่จะได้นำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจ ด้วยกล้องจุลทรรศน์ จะได้ให้การวินิจฉัยที่แน่นอนว่าเกิดจากเชื้อใดและจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป ที่สำคัญคุณจะต้องพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นด้วยการใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางแล้วเปลี่ยนทิ้งบ่อยบ่อยทุก 2-3 ชั่วโมง เมื่อไม่มีความอับชื้นอาการตกขาวผิดปกติหรือช่องคลอดมีกลิ่นก็จะดีขึ้นได้อย่างรวดเร็วค่ะ เมื่อรักษาหายแล้วก็ค่อยไปทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูก จะได้สบายใจว่าไม่มีเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกแต่ไม่ควรทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกในช่วงที่กำลังมีตกขาวผิดปกติ หรือมีการอักเสบในช่องคลอด หรือมีเลือดออกผิดปกติ เพราะจะไม่สามารถแปลผลได้ ส่วนเรื่องการฉีดวัคซีน ป้องกันไวรัส hpv สามารถทำได้แม้จะมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วก็ตามแต่ประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสอาจจะไม่ดีเท่าคนที่ยังโสดเพราะในตัวเราอาจจะมีเชื้อไวรัสกลุ่ม hpv แล้ว หลังจากฉีดวัคซีนแล้วก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องไปทำการตรวจเช็คมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีค่ะ |
Anonymous