กระดานสุขภาพ

มีผื่นแดงที่ปากมดลูก ไม่คัน แต่มีอาการแสบร้อน ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
Mari*****a

27 กันยายน 2560 15:05:08 #1

เมื่อประมาณ 3 วันก่อนหลังจากมีเพศสัมพันธ์ุุ พบว่ามีผื่นสีแดงขึ้นบริเวณรอบปากมดลูกคะ ในวันแรกไม่มีอาการใดๆ ในวันที่ 2 พบว่ามีอาการเมื่อยบริเวณก้น(ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวไม) วันที่ 3 มีอาการแสบร้อนเวลาเดิน ดิฉันชอบตากชุดชั้นในในห้องน้ำ ไม่ทราบมีผลทำให้เกิดเชื้อราหรือไม แล้วผื่นแดงที่เกิดขึ้นนี้มีอาการของโรคร้ายแรงไมคะ (ดิฉันมีความกังวัลว่าจะเป็นโรคริมฝีอ่อน) ขอบคุณมากคะ
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 164ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.56 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

10 ตุลาคม 2560 18:04:43 #2

ปกติแล้ว ในช่วงหลังกลางรอบเดือนจนถึงก่อนจะมีประจำเดือนรอบถัดไป หรือหลัง มีเพศสัมพันธ์อาจมีสารคัดหลั่งที่มากขึ้นได้นะครับ หากไม่มีอาการผิดปกติใด เช่น ตกขาวสีเขียวหรือเหลือง กลิ่นเหม็น หรือปวดท้องน้อย ก็ไม่ต้องกังวลครับ สามารถสังเกตอาการไปได้ก่อนครับ แต่จากอาการที่กล่าวมานั้น ผื่นคันน่าจะเกิดที่รอบๆช่องคลอดและมีตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ และ จากที่กล่าวมา ชุดชั้นในนั้นอาจมีความอับชื้อได้ครับและเป็นสาเหตุของการติดเชื้อราได้เลยครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ