วานคุณหมอช่วยตอบทีนะคะ ตอนนี้กังวลมากค่ะ

ยาฉีดคุมกำเนิดจะประกอบด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูงประมาณ 150 mg ยาจะออกฤทธิ์ได้นานประมาณ 3 เดือนหลังฉีด โดย กลไกในการป้องกันการตั้งครรภ์คือยาจะทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความบางตัวลงจนตัวอ่อนไม่สามารถ ไปฝั่งตัวได้ และ จะทำให้ไข่ไม่ตก การฉีดยาคุมนานๆจะทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ และอาจจะเป็นสาเหตุทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้ แต่คุณหยุดฉีดยาไปนานถึง 8 เดือนแล้วดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลจากยาคุม มาในครั้งนี้ การที่มีเลือดออกผิดปกติน่าจะเป็นผลมาจากการทำงานของรังไข่คุณเองไม่ปกติ เช่นภาวะไข่ไม่ตก ถ้ายังมีเลือดออกผิดปกติแล้วปวดท้องมาก ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายในและอัลตราซาวเพื่อประเมินว่ามีความผิดปกติใดที่มดลูกหรือรังไข่หรือไม่ จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ ส่วนใหญ่ การรักษาจะใช้ฮอร์โมนโปรเจสโตเจนหรือยาเม็ดคุมกำเนิดเพื่อควบคุมรอบเดือนให้เป็นปกติค่ะ

ขอบคุณ คุณหมอมากๆเลยค่ะ ^^ ขอเรียนถามคุณหมออีกหน่อยได้ไหมคะ คืออยากทราบว่าตอนนี้คือยาคุมที่ฉีดหมดไปจากร่างกายหรือป่าวคะ ยาคุมสามารถไม่มีตกค้างได้หรือป่าวคะ แล้วน้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้นเร็วเหมือนตอนฉีดไหมคะ เพราะร่างกายคุ้นเคยกับการกินและน้ำหนักก็เพิ่มเรื่อยๆ ถ้าคุมอาหารแล้วออกกำลังกายจะน้ำหนักจะสามารถลงได้ไวกว่าตอนฉีดไหมคะ

ขอรบกวนอีกค่ะ ^^ วันที่9ก.ย.ที่ประจำเดือนหมดในช่วงบ่าย แต่ก็ยังไม่วางใจเลยใส่ผ้าอนามัยแบบบางไว้ปรากฎว่าตอนเย็นมีเลือดออกสีน้ำตาลออกมาแต่ไม่มากค่ะ แล้วก็ไม่มีออกมาอีกกลางคืนก็เลยไม่ได้ใส่ผ้าอนามัย พอเช้าวัยที่10ก.ย. ดิฉันได้ตื่นมาตอน06:35น. ก็ไม่ได้หลับต่อจน07:00น.ดิฉันรู้สึกแฉะบริเวณอวัยวะเพศจึงได้เห็นว่ากลับมีประจำเดือนออกมาอีกพอสมควรเแ็นสีแดงปกติไม่สดและไม่คล้ำ แบบนี้ก็ยังปกติอยู่ใช่ไหมคะ

ตอนนี้ยาฉีดคุมกำเนิดจะต้องหมดฤทธิ์ไปเรียบร้อยแล้วค่ะ การที่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเร็วน่าจะเป็นผลมาจากการกิน ดังนั้น คุณจะต้องควบคุมอาหาร ควบคุมการกินอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ น้ำหนักตัวน่าจะลดได้ดี จากประวัติที่คุณบอกมาว่ามีเลือดออกมา น่าจะเป็นประจำเดือนในกรณีที่มีรอบเดือนมาโดยรวมไม่เกิน 7 วัน แม้จะมามากบ้างน้อยบ้างก็ไม่เป็นไร ถ้ามามากจะเห็นเป็นสีแดงสดแต่ถ้ามาน้อยก็จะเห็นเป็นสีน้ำตาลหรือสีช็อกโกแลต ซึ่งถ้าปริมาณโดยรวมไม่มากเกินไปและมาไม่เกิน 7 วันก็ถือว่าปกติ ไม่มีความจำเป็นต้องรักษาแต่อย่างใดค่ะ