31 สิงหาคม 2560 11:54:43 #1

สวัสดีค่ะ คุณหมอ

หนูได้มีเซ็กส์ กับแฟนทั้งทางอวัยวะเพศ ทางทวารหนัก และทางปาก โดยแฟนไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย เป็นครั้งแรกที่ได้มีเซ็กส์ทางทวารหนักค่ะ แต่ทำได้สักพักก็เอาออก เพราะเจ็บมาก แล้วแฟนก็นำมาใส่ด้านหน้าเลยโดยที่ไม่ได้ล้างทำความสะอาดก่อน เป็นอย่างนี้ค่ะ สลับไปเรื่อย ๆ ทั้งคืน แล้วก็มีเลือดออกเปื้อนผ้าปูที่นอนหลายจุด

อาการ

1. หลังจากนั้นคืนต่อมา หนูมีอาการปวดท้องน้อยเหมือนฉี่ไม่ออก ปัสสาวะเจ็บบริเวณปลายท่อปัสสาวะมาก ปัสสาวะไม่มีหนองปนออกมา ไม่มีเลือด ไปร้านขายยา เภสัชให้ Ofloxacin 200mg มาทาน วันละ 2 ครั้ง พร้อมกับยาแก้ปวด ทานได้ 3 วันกว่า ๆ ก็ไม่ได้ทานต่อเพราะได้เดินทางเป็นเวลา 4 วัน และลืมนำยาไปทานด้วย แต่ว่าอาการปัสสาวะเจ็บแสบขัดและปวดท้องได้หายไปแล้ว หลังจากกลับมาจากทริปเดินทางก็กลับมาทานยาที่เหลือต่อจนหมด เป็นไปได้ไหมคะว่าเกิดการอักเสบระหว่างมีเซ็กส์จนทำให้ปัสสาวะขัด รวมถึงการติดชื้อโรคจากทวารหนักด้วย อาการปัสาวะขัดหายแล้ว จำเป็นต้องทานยาอะไรเพื่มเติมอีกไหมคะ

2. หนูมีอาการตกขาวเป็นสีอมเขียว ๆ เหลือง ๆ แนบรูปมาให้ค่ะ ของจริงสีจะออกเขียวกว่าในรูปมาก มีกลิ่นอะไรไม่ทราบค่ะ ไม่แสบ ไม่คัน บางครั้งก็เป็นคราบคล้าย ๆ เชื้อรา แต่ว่าหนูไม่ได้คันยิบ ๆ ตลอดเวลา หนูเคยเกาเนื่องจากโกนขนแล้วขนขึ้นจึงทำให้อวัยวะเพศแถว ๆ คริสตอริสเป็นรอยแดง ๆ คันไม่มาก ไม่ได้คันคลอดเวลา ควรต้องหายามาทาไหมคะ แล้วตกขาวของหนู มามากมาน้อยแล้วแต่วันค่ะ บางคืนก็ไม่ไหลออกมาเลย บางวันก็เปลี่ยนผ้าอนามัยแบบบางแค่ครั้งเดียว บางวันก็เปลี่ยน 3 ครั้ง จะดูจากปริมาณตกขาวค่ะ ถ้ามาเยอะก็เปลี่ยน ไปร้านขายยาย เขาให้ metronidazole 400mg ทานวันละ 3 ครั้ง อาการเหมือนจะดีขึ้น แต่ก็ไม่หายค่ะ หนูควรจะใช้ยาสอดอะไรหรือทานยาอะไรบ้างคะ กลุ้มใจมากค่ะ ไม่มั่นใจเลยเวลามีอะไรกับแฟน กลัวเขาเห็นค่ะ

เดี๋ยวจะตามมาแนบรูปนะคะ

31 สิงหาคม 2560 11:59:06 #2

31 สิงหาคม 2560 12:01:12 #3

1 กันยายน 2560 15:58:08 #4