คุณมีการทานยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธี คือทานภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ ดังนั้น ยาคุมจะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ หลังทานยาคุมอาจจะมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอดและรอบเดือนถัดไปมีความคลาดเคลื่อนออกไปได้ซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในยาคุมที่ทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาตัวไม่สม่ำเสมอจึงมีเลือดออกมาทางช่องคลอด การทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้งเกินไปหรือเกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือนอาจจะมีผลทำให้ท่อนำไข่มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลงซึ่งถ้ามีการปฏิสนธิระหว่างไข่กับอสุจิไปแล้ว ก็อาจจะมีการฝังตัวที่ท่อนำไข่จนเกิดการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติโดยเฉพาะการตั้งครรภ์นอกมดลูก ดังนั้นส่วนใหญ่หมอจะแนะนำว่าไม่ควรใช้บ่อยครั้งควรใช้กรณีที่มีความฉุกเฉินจริงๆ ตอนนี้ถ้าดูจากประวัติที่คุณให้มา คุณไม่ควรตั้งครรภ์แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ารอบเดือนขาดหายไปนานเกิน 3 สัปดาห์ก็ควรตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ซ้ำอีกครั้งจะได้มั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์แน่นอนค่ะ

น่าจะหลักการเดียวกันกับ ได้ไปซื้อยาสำหรับกินมา 3 วัน แต่ขี้เกียจ ขอกินหมดแผงตั้งแต่วันแรกเลยละกัน

โดยปกติการทานยาคุมฉุกเฉินจะต้องทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกัน 12 ชั่วโมงจำนวน 2 เม็ดเพื่อที่จะให้ยาออกฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะยาคุมฉุกเฉินจะประกอบไปด้วยฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูงจะมีผลทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นจนตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปได้และทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความบางตัวลงมาก จนตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้ การทานยาคุมในปริมาณมากเพียงครั้งเดียวหรือทาน 2 เม็ดอาจจะทำให้การออกฤทธิ์ไม่ดีพอเหมือนทานครั้งละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมงค่ะ

น่าจะเป็นผลจากการทานยาคถมฉุกเฉิน แต่ถ้าใกล้ช่วงมีประจำเดือนก็อาจจะเป็นรอบเดือนด้วยได้ค่ะ