กระดานสุขภาพ
สอบถามเรื่องการใช้นิ้ว | |
---|---|
6 มิถุนายน 2560 19:22:24 #1 คือผมได้มีเพศสัมพันธ์กับแฟนโดยการใช้นิ้วครับ
2.) หลังจากการใช้นิ้วแล้ว หากแฟนผมปจด ปกติมาวันที่ 5 ของเดือน วันนี้วันที่ 7 แล้วปจด ยังไม่มาต้องกังวลหรือไม่ 3.) แล้วถ้าหากการใช้นิ้วมีการเปื้อนน้ำอสุจิ(เล็กน้อย)แล้วทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วทำการใส่เข้าไปจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากน้อยแค่ไหน 4.) การใช้นิ้วที่เปื้อนน้ำล่อลื่นเพียงเล็กน้อย กับ การใช้นิ้วที่เปื้อนน้ำอสุจิเพียงเล็กน้อย มีความแตกต่างกันหรือไม่ รบกวนคุณหมอช่วยตอบเป็นข้อๆด้วยนะครับ ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ. |
|
อายุ: 21 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.69 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
8 มิถุนายน 2560 16:45:31 #2 รบกวนคุณหมอช่วยตอบกระทู้หน่อยครับ ขอบคุณครับ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
9 มิถุนายน 2560 08:54:25 #3 ถ้านิ้วที่ใช้สอดเข้าไปในช่องคลอดมีการปนเปื้อนน้ำอสุจิ ก็จะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้านิ้วที่เปื้อนน้ำอสุจิ อยู่ภายนอกช่องคลอดนานห้านาที ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่นิ้วแห้งแล้ว อสุจิจะสามารถตายได้ ถ้ามีการสอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอดหลังจากนั้น โอกาสตั้งครรภ์ก็น่าจะน้อยลงเพราะประสิทธิภาพของอสุจิในการเคลื่อนไหวจะลดลง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าจะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ ถ้ามีการสอดนิ้วที่ปนเปื้อนน้ำอสุจิเข้าไปทางช่องคลอด ก็จะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ จะไม่สามารถแยกได้ว่านิ้วมีการปนเปื้อนน้ำหล่อลื่นหรือน้ำอสุจิ เพราะ น้ำหล่อลื่นอาจจะมีอสุจิปนเปื้อนด้วย การตรวจจะต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ในการแยกเท่านั้น ในกรณีที่มีรอบเดือนขาดหายไปไม่มาตรงตามเวลาที่ควรจะเป็น และมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ด้วย จะได้มั่นใจแน่นอนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่การตรวจปัสสาวะที่ให้ผลเชื่อถือได้ควรจะทำหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ค่ะ |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
9 มิถุนายน 2560 08:55:08 #4 ถ้านิ้วที่ใช้สอดเข้าไปในช่องคลอดมีการปนเปื้อนน้ำอสุจิ ก็จะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ แต่ถ้านิ้วที่เปื้อนน้ำอสุจิ อยู่ภายนอกช่องคลอดนานห้านาที ซึ่งน่าจะเป็นช่วงที่นิ้วแห้งแล้ว อสุจิจะสามารถตายได้ ถ้ามีการสอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอดหลังจากนั้น โอกาสตั้งครรภ์ก็น่าจะน้อยลงเพราะประสิทธิภาพของอสุจิในการเคลื่อนไหวจะลดลง อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ยืนยัน 100% ว่าจะปลอดภัยจากการตั้งครรภ์ ถ้ามีการสอดนิ้วที่ปนเปื้อนน้ำอสุจิเข้าไปทางช่องคลอด ก็จะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ จะไม่สามารถแยกได้ว่านิ้วมีการปนเปื้อนน้ำหล่อลื่นหรือน้ำอสุจิ เพราะ น้ำหล่อลื่นอาจจะมีอสุจิปนเปื้อนด้วย การตรวจจะต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ในการแยกเท่านั้น ในกรณีที่มีรอบเดือนขาดหายไปไม่มาตรงตามเวลาที่ควรจะเป็น และมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ ก็ควรตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ด้วย จะได้มั่นใจแน่นอนว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่การตรวจปัสสาวะที่ให้ผลเชื่อถือได้ควรจะทำหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายไปแล้วประมาณ 3 สัปดาห์ ค่ะ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
13 มิถุนายน 2560 17:32:07 #5 จากที่กล่าวมาหมอขอตอบรวมกันเลยนะครับและครอบคลุมประเด็นอื่นๆด้วย หากการมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ มีเพียงการถูกันเพียงภายนอกเท่านั้น ในกรณีนี้ถือว่า ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้เลยครับ เช่นเดียวกับอสุจิที่อยู่บริเวณภายนอกช่องคลอด ก็ไม่ทำให้ตั้งครรภ์เช่นเดียวกันครับ สบายใจได้ ส่วนในเรื่องการสอดใส่นิ้วที่อาจมีอสุจิปนไปและใส่เข้าไปในช่องคลอดด้วยนั้น หากหมอตอบตามทฤษฎีแล้ว ในกรณีดังกล่าวก็สามารถทำให้มีการตั้งครรภ์ได้ แต่ในแง่ของหลักฐานทางการแพทย์นั้น ไม่เคยปรากฎมีการตั้งครรภ์จากลักษณะที่กล่าวมานะครับ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการคุมกำเนิดสักนิดนะครับ หากครั้งต่อๆไปมีเพศสัมพันธ์ที่อาจมีการสอดใส่อวัยวะเพศ ซึ่งการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ คือ การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์นะครับ เช่น ถุงยางอนามัย และ ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือน เป็นต้นครับ และ เรื่องถุงยางอนามัยที่มีปัญหานั้น โดยปกติแล้วกระบวนการผลิตถุงยางอนามัยนั้น ค่อนข้างรัดกุมมากนะครับ การที่จะขาด รั่ว หรือ ปริแตกนั้นเกิดได้น้อยมากแต่หากเกิดมักเกิดจากการใช้ที่ผิดวิธีครับ ซึ่งการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้องนั้น มีหลักการง่ายๆ ดังนี้ คือ ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น และการใช้ถุงยางอนามัยซ้อนกันมากกว่า 1 ชั้นชึ้นไปนั้น นอกจากจะไม่ช่วยให้ป้องกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ถุงยางมีโอกาสที่จะขาดและปริแตกง่ายขึ้นด้วยจากการเสียดสีกันเองของถุงยางอนามัยครับ เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมาในช่วงที่อวัยวะเพศแข็งตัวอยู่ โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาดตามปกติครับ หากปฎิบัติตามนี้ ก็สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยจะหลั่งในหรือนอกก็ได้นะครับ ส่วนในฝ่ายหญิงหากต้องการคุมกำเนิดด้วย หมอแนะนำให้ทานยาเม็ดคุมกำเนิดแบบแผงรายเดือนนะครับ ซึ่งในเรื่องของยาเม็ดคุมกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ก็มีวิธีการใช้เหมือนกันครับ คือ เร่ิมทานเม็ดแรกของแผงภายใน 5 วัน นับจากประจำเดือนมาวันแรก ทานช่วงเวลาไหนก็ได้ ขอให้เป็นเวลาเดิม และ เป็นเวลาที่คาดว่าจะไม่ลืมทาน ซึ่งหากเริ่มทานได้ดังนี้ ก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ช่วงใดก็ได้ จะหลั่งด้านในหรือนอกก็ได้ครับ หากทานแบบ 28 เม็ด ก็ให้ทานต่อแผงไปเรื่อยๆ ซึ่งประจำเดือนจะมาช่วง 7 เม็ดสุดท้ายของแต่ละแผง ส่วนหากทานแบบ 21 เม็ด ก็ให้เว้น 7 วัน และเริ่มแผงใหม่ได้เลย โดยระหว่างที่เว้นนี้ จะเป็นช่วงที่ประจำเดือนมาครับ หากมีการลืมทาน หากลืมเพียง 1 เม็ดก็ไห้ทานเมื่อนึกขึ้นได้ และหากลืมทาน 2 เม็ด ก็ไห้ทานวันที่นึกขึ้นได้พร้อมกับเม็ดที่ต้องทานในว้นนั้นๆไปรวมเป็นสองวันติดกัน แต่หากลืมทาน 2 เม็ด ในช่วงที่เลยกลางรอบเดือนไปแล้ว หรือ มากกว่า 3 เม็ดขึ้นไป ก็ให้คุมกำเนิดวิธีอื่นๆด้วย เช่น ใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยครับ |
Anonymous