กระดานสุขภาพ

อวัยวะเพศมีเม็ดเล็กสากๆ
Adel*****l

2 มิถุนายน 2560 06:26:36 #1

หนุเป้นคนที่มีตกขาวอยู่แล้ว แล้วก่อนประจำเดือนมาตกขาวก้จะเยอะกว่าปกติ หนูสังเกตุว่ามีตุ่มเล็กๆ1ตุ่มคล้ายสิวขึ้นตรง ใกล้ๆระว่างช่องคลอดกับใกล้ๆช่องทวาร และก้มีตุ่มเม็ดเล้กๆขึ้นตรงบริเวณในช่องคลอด ใช้นิ้วแตะๆรู้สึกสากผิดปกติอ่าค่ะ และหลังหมดประจำเดือนเม็ดเล้กๆสากๆก้ยังไม่หายค่ะ ส่วนตุ่มบริเวณใกล้ช่องคลอดก้เหมือนเป้นติ่งๆสากๆไม่เป้นตุ่มแล้ว หนูคิดว่ามันเหมือนจะลามไปตรงช่องคลอดเลย เนื้อบริเวณนั้นเริ่มสากๆแช้วค่ะ. หนูเป็นอะไรร้ายแรงรึป่าวคะ ก่อนหน้าที่จะเป้นหนูคันอวัยวะเพศและใกล้ช่องทวารก็เป็นค่ะ หนูเป็นมะเร็งมดลูก หรือ หูดรึป่าวคะ แต่มันไม่เจ็บนะคะ
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

3 มิถุนายน 2560 14:53:52 #2

ตุ่มที่พบอาจจะเกิดจากการอุดตันของต่อมไขมันหรือต่อมที่สร้างสิ่งคัดหลั่งบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการอุดตันก็จะทำให้เกิดลักษณะเป็นตุ่มนูนขึ้นมา และอาจจะยุบหายไปได้เองถ้าสิ่งคัดหลั่งสามารถหลุดออกมาได้ ถ้าไม่มีอาการผิดปกติก็ไม่ต้องทำอะไร สามารถสังเกตอาการต่อไปได้ แต่ถ้าตุ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นหรือเพิ่มมากขึ้น ก็ควรไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยก่อนจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป เพราะอาจจะเกิดจากการติดเชื้อเช่นหูด หรือการติดเชื้อ ไวรัสหรือแบคทีเรียบางชนิด ซึ่งจะต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไปค่ะ

Anonymous

4 มิถุนายน 2560 04:15:41 #3

ตอนแรกหนูคิดว่าเป้นเชื้อรา เลยทานยาและทายาแต่ไม่ดีขึ้นเหมือนมันลามไปที่ช่องคลอดแล้วค่ะ
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

5 มิถุนายน 2560 10:43:05 #4

จากภาพไม่ชัดเจนค่ะ แต่ดูจากภาพที่เบลอน่าจะเป็นการติดเชื้อหูดค่ะ ซึ่งเป้นโรคติดเช้อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่ง เกิดจากากรติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งการรักษาจะต้องใช้ยาจี้ทำลาย ได้แก่ กรดอะซิติก หรือโพโดไฟลิน เป็นต้น และถ้าเป็นมากอาจจะต้องใช้ไฟฟ้าหรือเลเซอร์จี้ทำลาย เพื่อป้องกันการลุกลามต่อไป ควรไปตรวจสามีหรือคู่นอนด้วยว่ามีอาการดังกล่าวด้วยหรือไม่ค่ะ จะได้รักษาไปพร้อมๆ กันค่ะ

Anonymous

6 มิถุนายน 2560 00:03:38 #5

เกิดจากสาเหตุอื่นได้อีกหรือป่าวคะ ถ้าไม่ใช่เพศสัมพันธ์เพราะฝ่ายชายไม่ได้เป็นค่ะ ลิงค์รูปนี่รบกวนลบออกได้มั้ยคะ
Anonymous

6 มิถุนายน 2560 09:17:22 #6

รบกวนลบความคิดเห็นที่3 ที่มีลิ้งค์รูป ออกด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ.
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

6 มิถุนายน 2560 12:17:36 #7

เนื่องจากภาพไม่ชัด ถ้าไม่แน่ใจการวินิจฉัยก็ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยก่อนการรักษาจะดีที่สุดนะคะ การที่ฝ่ายชายไม่พบไม่ได้เป็นตัวยืนยันว่าฝ่ายหญิงจะปกติค่ะ