กระดานสุขภาพ
มีเปอร์เซ็นต์การตั้งครรภ์สูงหรือไม่ | |
---|---|
23 พฤษภาคม 2560 11:43:55 #1 คุมกำเนิดแบบฝังฮอร์โมน มา 15 ปี โดย แต่ละครั้งที่ ยาคุมครบกำหนดที่ต้องฝังต่อ ก็จะเว้นว่างไว้ ประมาณ เกือบปี แต่ในระหว่างนี้ ไม่มีประจำเดือนมา ทั้งตอนคุม และ ไม่ได้คุม เป็นผังผืดที่ปีกมดลูกด้านขวา เป็นมาประมาณ 10 กว่า ปี เป็นหลังจากฝังฮอร์โมน ครั้งแรก แต่ด้วยความกลัว ว่า จะมีเข้าไปบ้าง เลยทำการกินยาโพสตินอร์ (ยาคุมฉุกเฉิน) กินไปเม็ดแรก หลังมีเพศสัมพันธ์ ประมาณไม่เกิน 15 ชั่วโมง กินเม็ดที่ 2 ประมาณ 20 ชั่วโมง จากนั้น ได้มีเพศสัมพันธ์ อีกแต่ก็กลัวว่าจะเข้าไปข้างใน ได้ทานยาคุมฉุกเฉิน ประมาณ ภายใน 33 ชั่วโมง
|
|
อายุ: 41 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 56 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.57 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
25 พฤษภาคม 2560 07:49:09 #2 ยาฝังคุมกำเนิดเป็นยาคุมชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสโตเจนในขนาดสูง ตัวยาจะอยู่ในหลอดยาขนาดเล็ก ฝังใต้ท้องแขน ยาจะค่อยๆ ออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์โดยทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกมีความบางตัวมาก จนตัวอ่อนไม่สามารถไปฝังตัวได้ และทำให้มูกที่ปากมดลูกมีความเหนียวข้น ซึ่งตัวอสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปปฏิสนธิได้ และยังทำให้ท่อนำไข่มีการเคลื่อนไหวตัวที่ช้าลงด้วย ยาคุมในสมัยก่อนจะมีหลอดยา 6 แท่ง เรียกว่า norplant ออกฤทธิ์ได้นาน 5 ปี ปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นชนิด 1 แท่งและ 2 แท่งเรียกว่า implanon และ jardell ออกฤทธิ์ได้นาน 3 ปี อย่างไรก็ตาม ถ้ามีการฝังยานานมากกว่านี้อยากก็ยังสามารถออกฤทธิ์ได้อยู่ แต่ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ เมื่อถึงกำหนดที่จะต้องถอดหลอดยาออก จะต้องไปเอาออกตามเวลา เพราะถ้าเกินกำหนดประสิทธิภาพอาจจะลดลงและจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ ตอนนี้ ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์ ก็สามารถคุมกำเนิดด้วยวิธีการรับประทานยาคุมฉุกเฉินได้ แต่จะต้องทานให้ถูกวิธีโดยทานเม็ดแรกในช่วงที่มีเพศสัมพันธ์ไม่เกิน 1 ชั่วโมงหรือช้าที่สุดไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมงและจะต้องทานครั้งละ 1 เม็ดห่างกันทุก 12 ชั่วโมงไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้งเกินไปหรือเกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน เพราะจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติได้ โดยเฉพาะการตั้งครรภ์นอกมดลูก ในกรณีที่คุณไม่ต้องการมีบุตรอีกแล้วหมอขอแนะนำให้คุณไปทำหมันถาวรจะดีที่สุด ตอนนี้ที่โรงพยาบาลศิริราชรับทำหมันแห้ง โดยการทำผ่าตัดผ่านกล้อง ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพียงแต่เสียค่าอุปกรณ์เล็กน้อยเท่านั้น สามารถติดต่อที่หน่วยวางแผนครอบครัวในเวลาราชการได้เลยค่ะ ตอนนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าคุณจะมีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ เท่าไหร่คะ |
Pwsu*****k |
26 พฤษภาคม 2560 10:34:39 #3 ได้ยายาคุมฉุกเฉินไปแล้ว |
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์(สูติ-นรีแพทย์) |
5 มิถุนายน 2560 10:41:24 #4 จากประวัติที่คุณบอกมา คุณได้ฝังยามานาน 15 ปี และตอนนี้ ครบกำหนดฝัง เลยเวลาไปแล้ว 2 เดือนแล้วก็ไม่ได้ไปฝังอีก โดยทั่วไปยายังจะมีฤทธิ์ในการคุมกำเนิดได้อีกแต่ไม่ทราบเวลาที่แน่นอน เนื่องจากคุณฝังยาคุมมาเป็นเวลานาน ดังนั้น ฤทธิ์ของยากล่าวก็จะครอบคลุมอยู่ได้นานอีกสักระยะหนึ่ง อาจจะ 3-12 เดือน แต่ก็มั่นใจไม่ได้มาก ถ้าต้องการคุมกำเนิดต่อโดยการฝังยา คุณควรไปรับการ เอายาหลอดเก่าออกและฝังหลอดใหม่เข้าไปแทน ไม่ควรให้ยาหมดอายุเป็นเวลานาน เพราะจะเกิดความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ การฝังยาเป็นเวลานาน ก็จะทำให้ไม่มีประจำเดือนมาได้ ถ้ามีการตั้งครรภ์ ก็จะไม่ทราบว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ จะต้องตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์เป็นระยะ การทานยาโพสตินอร์ สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ได้แต่จะต้องทานอย่างถูกวิธี โดยทานเม็ดแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ ไม่เกิน 1 ชั่วโมง หรืออย่างช้าภายใน 24 ชั่วโมง และทานเม็ดที่ 2 ห่างจากเม็ดแรกประมาณ 12 ชั่วโมง ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อยครั้งเกินไปหรือเกิน 1 ถึง 2 ครั้งต่อเดือน เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้ จากประวัติที่คุณบอกมา โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยมากไม่น่ากังวลเรื่องการตั้งครรภ์ แต่ถ้าอยากจะตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ ก็สามารถทำได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วนาน 3 สัปดาห์ |
Pwsu*****k