ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมทุกยี่ห้อจะมีฮอร์โมเอสโตรเจนซึ่งจะไปออกฤทธิ์ที่ตับ การทานยาคุมจะทำให้เกิดอันตรายต่อตับได้ถ้่ามีภาวะตับอักเสบ ดังนั้น จะต้องใช้ยาคุมกำเนิดด้วยความระมัดระวัง ถ้าทานระยะเวลาสั้นๆ ไม่นาน ควรเลือกใช้นยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เพียง 15-20 ไมโครกรัม เมอซิลอนมีเอสโตรเจน 20 ไมโครกัม สามารถใช้ได้ แต่อาจจะทำให้มีเลือดออกผิดปกติระหว่างทานยาคุม เพราะมีฮอร์โมนต่ำ แต่ไม่ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ระหว่างใช้ยาควรเจาะเลือดเพื่อดูค่าการทำงานของตับเป็นระยะๆ ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ คุณหมอ แล้วยี่ห้อ R Den กินได้มั้ยคะ  เคยไปสอบถามเภสัชกรร้านBoots มาค่ะ เค้าแนะนำ Yaz กับ Yasmin ด้วยค่ะ อยากทราบว่ายี่ห้อไหนดีสุดคะ แล้วถ้ากินยาคุมไปแล้ว จะกินนมได้อีกทีต้องผ่านไปกี่นาทีคะ เพราะกลัวนมจะไปรบกวนประสิทธิภาพของยาค่ะ 

อีกอย่างค่ะ แล้วหนูควรคุมกำเนิดแบบไหนดีคะ ถ้ายาคุมมีผลต่อตับแบบนี้

อีกนิดนึงค่ะ อาการอักเสบของตับจะมีอาการยังไงเหรอคะ

ทางแอดมินขอแยกตอบ 2 ประเด็นนะคะ คือ

1. ทานยาคุมอย่างไร ไม่ให้เป็นอันตรายต่อตับ

2. การอักเสฐของตับมีอาการอยางไร

เนื่องจากทั้ง 2 คำถามต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ ค่ะ

ประเด็นแรกค่ะ : ทานยาคุมอย่างไรไม่ให้เป็นอันตรายต่อตับ

คุณจะต้องดูว่ายาคุมที่ใช้มีปริมาณเอสโตรเจนเท่าใด พยายามเลือกชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำไว้ yaz มีเอสโตรเจน 20ไมโครกรัม ส่วน R-den และ yasmin เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจน 30 ไมโครกรัม ดังนั้น ถ้ามีปัญหาเรื่องตับควรเลือกยาคุม yaz แต่ถ้ามีอาการตับอักเสบเลยก็ควรคุมด้วยวิธีอื่น ไม่ควรใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดค่ะ

ประเด็นที่สอง : การอักเสฐของตับมีอาการอย่างไร

อาการตับอักเสบ สามารถมีอาการ เหนื่อยเพลีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องอืดแน่นท้อง ตัวเหลืองตาเหลือง หากเป็นการอักเสบจากการติดเชื้อ ก็มักจะมีไข้ร่วมด้วยค่ะ

สามารถทานได้ค่ะ แต่ควรเลือกชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำไว้ก่อนในขนาด 15-20 ไมโครกรัม ซึ่งมีหลายยี่ห้อ สามารถปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาได้เลยค่ะ