กระดานสุขภาพ

ผมเครียดจริงๆครับ ช่วยผมด้วยผมไม่มีทางออกแล้ว
Anonymous

31 กรกฎาคม 2563 15:01:39 #1

สวัสดีครับคุณหมอคือว่าเมื่อ2ปีก่อนผมเป็นร้อนในครับผมเลยซื้อยามากินแก้ร้อนในแล้วพอกินไปสักพักผมก็มีอาการปวดท้ายทอยและผมก็เบื่ออาหารน้ำหนักลดจาก48มาเหลือ46ครับผมเลยหาข้อมูลตามในเน็ตจนผมไปเจอว่ามันเป็นอาการของมะเร็งผมเลยเครียดมากครับกินข้าวไม่ลงเลยตอนนั้นผมเครียดเรื่องมะเร็งไปถึง5เดือนครับวันๆเอาแต่นึกว่าตัวเองเป็นมะเร็ง วันๆหาข้อมูลแต่โรคมะเร็ง เข้ามาใช้บริการถามปัญหาสุขภาพตามในเน็ตเยอะมากครับ ทั้งมะเร็งตับ มะเร็งกระเพราะ แลพโรคอื่นๆอีกมากครับ จนผมมาเลิกคิดเรื่องโรคได้เมื่อต้นปี2019ครับ แล้วต่อมาผมก็มากลัวว่าผมจะเป็นเกย์ทั้งๆที่ผมไม่ได้อยากเป็นเลยผมชอบผู้หญิง จีบผู้หญิง เวลาช่วยตัวเองดูคลิปของผู้หญิงซึ่งผมกังวลและคิดเรื่องนี้เป็นเวลา1ปีกว่าแล้วครับจนผมเครียดมากๆคิดเรื่องนี้ทุกวันทั้งวันจนบางครั้งผมเอาหัวเขกกำแพง พื้น เพื่อที่จะให้หายคิดเรื่องนี้สักทีแต่มันก็ไม่ได้ผลไรครับ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำลงไป มันไม่ได้ช่วยไรแต่ผมเครียดไม่มีที่ระบายมากๆครับ วันๆผมก็บอกกับตัวเองว่าไม่ได้เป็นเลิกคิดได้แล้ว แต่มันก็ไม่เลิกครับ จนผมท้อมากคิดว่าตายไปยังคงสบายกว่านี้ที่ต้องมาคิดเรื่องแบบนี้ผมเครียดมากครับ แต่บางวันผมก็ไม่ได้คิดถึงเรื่องนี่มากนะครับ ผมเลยอยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณหมอหน่อยครับที่จะให้ผมเลิกคิดเรื่องแบบนี้ได้

อายุ: 16 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 171ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

31 กรกฎาคม 2563 15:04:54 #2

แล้วตอนนี้ผมก็ไม่กล้าฝันเปียกด้วยครับเพราะกลัวจะฝันถึงเพศเดียวกัน ผมกลัวมากๆครับผมไม่อยากเป็นถ้าผมเป็นผมก็ว่าตายไปยังดีกว่าครับ อันนี้ผมไม่ได้เหยียดนะครับแต่ผมไม่อยากเป็นจริงๆ

Anonymous

31 กรกฎาคม 2563 15:09:46 #3

แล้วยิ่งผมไปเจองานวิจัยที่ว่าคนที่นิ้วชี้ยาวกว่านิ้วนาง จะเป็นเกย์อีกผมยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่เลยครับ 

Anonymous

31 กรกฎาคม 2563 15:10:53 #4

ตอนเด็กๆผมก็เป็นคนที่เวลาเดินทางไปป่า เขา แล้วมีศาลเจ้า ผมก็ชอบด่าในใจแบบหยาบคายท้าทาย แบบนั้นด้วยครับซึ่งมันเป็นคล้ายๆกันคือ ห้ามใจตัวเองให้ทำไม่ได้

นพ. อุดม เพชรสังหาร

(จิตแพทย์)

2 สิงหาคม 2563 16:28:07 #5

ในทางการแพทย์เราไม่เอาความยาวของนิ้วมือมาเป็นตัววินิจฉัยว่าใครเป็นเกย์หรือไม่เป็นนะครับ และในประวัติศาสตร์วงการแพทย์แผนปัจจุบันก็ไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ ผมเลยงงว่างานวิจัยที่คุณอ้างถึงมันมาได้ยังไง อีกอย่างตอนนี้วงการแพทย์ทั่วโลกเขาไม่ถือว่าการเป็นเกย์หรือเลสเบี้ยนเป็นความผิดปกตินะครับ คุณจะเห็นได้ว่าคนที่อยู่ในกลุ่ม LGBT(Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender) เป็นที่ยอมรับว่าเป็นคนปกติ ในประเทศไทยเองตอนนี้ก็กำลังมีการยกร่างกฎหมายว่าด้วยการแต่งงานของคนเพศเดียวกันอยู่ นั่นแสดงว่าประเทศไทยเองก็ยอมรับว่าคนเหล่านี้ว่าคือคนปกติธรรมดาไม่ใช่คนที่มีความผิดปกติแต่อย่างใด ข้อมูลในอินเตอร์เน็ตนั้นจริงก็เยอะปลอมก็ไม่น้อย ดังนั้นเวลาอ่านอะไรต้องตรวจสอบให้ดีครับ

การที่ผมพูดแบบนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณเป็นเกย์ เพียงแต่จะบอกว่าถึงจะเป็นเกย์ มันก็ไม่ใช่สิ่งผิดปกติแต่อย่างใด

ปัญหาในตอนนี้ของคุณก็คือ คุณชอบคิดว่าตนเองผิดปกติ แล้วคุณก็ไปหาข้อมูลมาสนับสนุนความคิดของคุณ ทั้งหมดมันเป็นอาการของการย้ำคิดครับ สิ่งที่คุณต้องทำก็คือเมื่อใดที่คุณรู้สึกสงสัยว่าตนเองกำลังมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น คุณต้องเตือนตัวเองทันทีว่ามันกำลังเกิดขึ้นแล้ว คุณต้องหยุดมัน หาอะไรที่มันทำให้คุณรู้สึกสบายใจขึ้นมาทำทันที ใจคุณอาจกังวลว่าตนเองจะเป็นอะไรที่ร้ายแรงถ้าไม่สำรวจตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า ไม่ต้องกลัวครับ หายใจเข้าออกลึก ๆ ช้า ๆ ไปเรื่อย ๆ แล้วหาอะไรที่เพลิน ๆ มาทำ ทำมันจนกว่าความรู้สึกกลัวและกังวลว่าเราจะเป็นโน่นเป็นนี่มันเบาบางลงหรือหายไป และทุกครั้งที่ความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา คุณก็สู้กับมันด้วยวิธีการนี้อีก ครั้งแล้วคั้งเล่า ทำไปเรื่อย ๆ แล้วความคิดแบบที่ว่ามันจะค่อย ๆ หายไปเอง และคุณจะต้องไม่ไปค้นหาคำตอบว่าตนเองผิดปกติหรือเปล่า บอกตัวเองว่าเป็นไงเป็นกันฉันจะสู้กับแก การที่คุณสู้กับมันแบบนี้มันจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนวงจรความคิดของคุณให้หลุดออกจากวังวนของความคิดเดิม ๆ แล้วคุณก็จะหลุดพ้นจากวังวนของความคิดนี้ในที่สุด

ทำดูนะครับ ขอเอาใจช่วยให้คุณหลุดพ้นจากวงจรความคิดนี้ได้โดยเร็ว

นพ.อุดม เพชรสังหาร