กระดานสุขภาพ
แบบนี้เรียกว่าเป็นโรคจิตใช่ไหมคะ | |
---|---|
9 มิถุนายน 2557 14:21:06 #1 สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูอายุ 19 ปี กำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยค่ะ หนูคิดว่าตัวหนูต้องมีอาการทางจิตแน่ๆเลยค่ะ แต่หนูก็ไม่กล้าปรึกษาใคร โดยเฉพาะพ่อแม่ เพราะกลัวท่านจะเป็นกังวล หนูรบกวนคุณหมอด้วยนะคะ เข้าเรื่องเลยนะคะ โดยปกติแล้วหนูเป็นคนเฮฮาค่ะ หนูเป็นคนมีเพื่อนเยอะ เวลาอยู่กับเพื่อนหนูก็จะดูเป็นคนปกติทุกอย่าง แต่พอหนูต้องอยู่คนเดียวทีไร หนูก็จะรู้สึกว่าตัวเองคิดฟุ้งซ่านมากๆ หนูชอบคิดฟุ้งซ่านในเรื่องของ "โรค" ต่างๆ ค่ะ มันอาจจะดูงี่เง่านะคะ แต่เรื่องงี่เง่าพวกนี้มันก็ทำให้หนูเครียดมากๆค่ะ หนูคิดฟุ้งซ่านว่าหนูจะเป็นโรคนู้นโรคนี้ จนทำให้หนูต้องล้างมือบ่อยๆ บางวันหนูล้างมือเกินกว่าสิบครั้งก็มี หรือบางครั้งหนูก็ไม่กล้าเข้าห้องน้ำสาธารณะ ซึ่งหนูก็รู้สึกรำคาญพฤติกรรมตัวเองมากๆ แต่หนูก็ไม่รู้จะทำยังไง เพราะจิตมันฟุ้งซ่านกลัวไปเอง หนูมีอาการแบบนี้มาประมาณปีหนึ่งได้แล้วค่ะ ทุกครั้งที่หนูกังวลเรื่องโรคนู้นโรคนี้ หนูก็จะเข้าไปอ่านตามบทความสุขภาพต่างๆ หรือแอบถามพ่อแบบเปรยๆ (พ่อหนูทำงานด้านสาธารณสุขค่ะ) หรือบางครั้งหนูก็จะตั้งกระทู้ถามในพันทิปค่ะ คุณหมอรู้ไหมคะ ว่าการเป็นแบบนี้มันทรมานมาก บางครั้งหนูก็ร้องไห้ คิดว่าทำไมตัวเองถึงเป็นคนวิตกจริตมากขนาดนี้ แล้วจุดระเบิดที่หนูคิดว่าหนูจะไม่ทนกับอาการนี้เกิดจาก เมื่อสองสามวันก่อน หนูได้เดินไปแถวๆที่มีสุนัขจรจัดอยู่ค่ะ ตอนหนูเดินผ่านหนูก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกนะคะ แต่แล้วปลายเท้าของหนูมันเถลดนิดๆออกไปนอกรองเท้า (หนูเป็นคนเท้าบาน แล้ววันนั้นหนูใส่รองเท้าหูคีบ) ทำให้นิ้วก้อยออกไปแตะสัมผัสพื้น แค่นั้นแหละค่ะ ความคิดวิตกจริตของหนูมันก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาเลย ว่า เอ๊ะ! จะเป็นโรคพิษสุนัขบ้าไหมนะ เพราะตรงนั้นมีแต่หมาจรจัด มีเศษข้าว เศษถุงที่คนเอาข้าวมาให้พวกมันกินด้วย แล้วถ้าสุนัขพวกนั้นกินข้าวกัน แล้วสุนัขมีเชื้อพิษสุนัขบ้า แล้วน้ำลายของมันก็ติดอยู่ตามพื้น เราจะติดโรคไหมนะ ในใจก็คิดว่า ไม่ติดหรอก เพราะเท้าไม่มีแผลหรือรอยถลอก จากนั้นหนูก็ไม่คิดอะไรจนกลับบ้าน หนูก็สังเกตว่าที่เท้ามีรอยแผลถลอกอยู่ด้วย!!!!! เท่านั้นแหละค่ะ ความคิดก็เตลิดไปเลย ด้วยความที่แผลไม่ได้อยู่ตรงฝ่าเท้า จิตใจปกติมันก็ปลอบว่า "คงไม่เป็นหรอก" แต่จิตใจฝ่ายฟุ้งซ่านมันก็จะหายวิธีคิดที่จะทำให้หนูเป็นให้ได้ค่ะ เช่น เอ๊ะ ตรงพื้นที่เราเหยียบ(พื้นตัวหนอนสลับหญ้า) พื้นตรงนั้นมันอาจจะเผยอขึ้นก็ได้นะ แล้วก็อาจมีน้ำลายสุนัขติดอยู่ ตอนเดินแผลเราอาจจะไปขูดเข้ากับพื้นตรงนั้นนะ แต่จิตใจฝ่ายปกติมันก็ปลอบอีกว่า แผลมันแห้งแล้วนี่ จิตใจฝ่ายฟุ้งซ่านมันก็แย้งว่าตอนนั้นมันอาจยังไม่แห้งก็ได้ เพราะหนูกลับบ้านมาประมาณหนึ่งทุ่ม แล้วช่วงที่เดินผ่านสุนัขพวกนั้นมันตอนสิบเอ็ดโมง แล้วอย่างวันนี้หนูได้แผลใหม่มาที่เท้า เป็นแผลถลอกมีเลือดซิบๆ หนูก็ใส่รองเท้ากำลังจะเดินไปนอกบ้าน แล้วมันก็มีความคิดฟุ้งซ่านมาว่า หมาที่บ้านชอบเอารองเท้าไปกัด แล้วช่วงนี้หมาติดสัด ชอบกัดกัน แล้วถ้าที่บ้านหมาหนูไปกัดหมาใครก็ไม่รู้ที่เป็นบ้าขึ้นมาหล่ะ แล้วยังมีเชื้ออยู่ในปาก แล้วมากัดรองเท้าหนูอย่างนี้ เชื้อก็จะต้องติดรองเท้าหนู แล้วมาโดนแผลหนู หนูต้องติดโรคพิษสุนัขบ้าแน่ๆ เพราะแผลยังสดอยู่เลย เคยอ่านเจอว่าถ้าโดนน้ำลายของหมาบ้านเข้าตา หรือเข้าแผลก็อาจติดโรคได้ คุณหมอเห็นไหมคะว่าหนูฟุ้งซ่านแค่ไหน หนูก็กลัวว่าจะเป็นโรคเครียดตายก่อนเป็นโรคพิษสุนัขบ้าตายมากกว่า ที่หนูติดสินใจเขียนมาครั้งนี้ เพราะหนูทนไม่ได้แล้วจริงๆ ใจหนึ่งมันก็บอกว่าไม่เป็นไร ใจหนึ่งมันก็บอกว่าต้องเป็นแน่ๆ ไม่วันนี้ พรุ่งนี้ ก็อีกหลายเดือนข้างหน้า เพราะเคยอ่านเจออีกว่า โรคพิษสุนัขบ้าในคน บางทีเป็นปีๆกว่าจะแสดงอาการ คุณหมอรู้ไหมคะว่าตั้งแต่วันนั้นหนูนอนหลับไม่สนิทจริงค่ะ กังวลมาก ร้องไห้เพราะคิดมากมาหลายรอบแล้ว แล้วยิ่งโรคพิษสุนัขบ้าเป็นโรคที่หนูกลัวมากๆ เพราะไม่มีทางรักษา หนูรู้สึกกังวลมากๆ ทั้งๆที่รู้นะคะว่ามันดูงี่เง่า แต่มันก็ห้ามใจไม่ให้คิดไม่ได้เลยค่ะ ตอนนี้หนูใช้ชีวิตแบบซังกะตายมากๆ ทั้งวันหนูจะคิดอยู่แต่เรื่องนี้ ถ้าหนูไม่ได้รับการยืนยันว่าไม่เป็นอะไรหนูก็จะคิดฟุ้งซ่านอยู่อย่างนี้ หรือหนูควรจะไปฉีดยาป้องกันเสียเลยคะ แต่หนูก็ไม่รู้จะบอกพ่อแม่ยังไง เพราะมันก็ต้องใช้เงินด้วย รบกวนคุณหมอด้วยนะคะ 1.หนูอยากรู้ว่าอาการแบบนี้เรียกว่าโรคจิตใช่ไหมคะ แล้วหนูควรจะรักษายังไง ต้องทานยาไหมคะ 2.คุณหมอช่วยยืนยันได้ไหมคะว่าเหตุการณ์ที่หนูเล่ามาจะไม่ทำให้หนูเป็นโรคพิษสุนัขบ้า หรือถ้ามันมีความเสี่ยง หนูควรบอกพ่อแม่ให้พาไปฉีดยายังไงดีคะ ให้หนูดูเป็นคนปกติ ไม่คิดมาก เพราะหนูกลัวท่านจะคิดมาก กังวลกับพฤติกรรมและความคิดของหนู รบกวนด้วยนะคะคุณหมอ ช่วยเด็กวัยรุ่นคนนี้ที่คิดมากคนนี้ให้กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติเถอะนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ รูปแผลค่ะ ถ้าไม่ขึ้นหรือไม่ชัดหนูส่งไปอีกที่อีเมล์ info@haamor.com แล้วนะคะ |
|
อายุ: 19 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 26.17 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ. อุดม เพชรสังหาร(จิตแพทย์) |
10 มิถุนายน 2557 13:39:55 #2 อาการที่คุณเล่ามาน่าจะเข้าได้กับ "โรคย้ำคิดย้ำทำ" หรือที่ฝรั่งเรียกว่า "Obsessive Compulsive Disorder(OCD)" ไม่ใช่โรคจิตครับแต่เป็นโรคในกลุ่มโรคความกังวล ยังไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ก็เป็นโรคที่รักษาได้ด้วยยา แนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์ครับ และควรบอกให้คุณพ่อรู้ท่านจะได้เป็นกำลังใจให้คุณอีกทางหนึ่ง ท่านทำงานในแวดวงสาธารณสุขผมเชื่อว่าท่านจะเข้าใจสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับคุณดี สิ่งที่คุณกลัวทั้งหลายนั้นมันเป็นอาการของโรค เมื่อคุณได้รับการรักษาทุกอย่างจะคลี่คลายเองครับ นายแพทย์อุดม เพชรสังหาร |
Rari*****3