กระดานสุขภาพ
ปวดหัว | |
---|---|
20 พฤษภาคม 2556 08:05:35 #1 |
|
อายุ: 43 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 53 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.56 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
20 พฤษภาคม 2556 12:11:42 #2 สวัสดีครับ อาการดังกล่าวเป็นผลจากการที่สมองได้รับการกระแทกครับ ทำให้มีอาการปวดศีรษะต่อมาภายหลังได้ ถ้าได้ตรวจ CT สมองแล้วไม่พบความผิดปกติก็สบายใจได้ครับว่าไม่มีสาเหตุอะไรที่ต้องกังวล การรักษาคือเข้าใจโรคว่าเกิดจากอะไร และถ้าปวดไม่มากก็ลองบีบนวดว่าอาการปวดทุเลาลงหรือไม่ จะได้ไม่ต้องใช้ยาครับ ส่วนตุ่มกลางศีรษะนั้นต้องตรวจดูครับว่ามีจริงหรือไม่ |
Anonymous |
21 พฤษภาคม 2556 06:06:35 #3 1.ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ คุณหมอ แล้วอาการปวดหัวจะเป็นอยู่อย่างนี้ หรือจะค่อย ๆ หายไปคะ ผล ct scanใช้ได้กี่เดือนคะ 2.แล้วอาการปวดลงกรามเกิดจากการปวดหัวด้วยไหมคะ เพราะไปตรวจฟัน+เอกซ์เรย์ฟัน แล้วหมอบอกว่ามีฟันซี่นึงที่ควรรื้อแล้วอุดใหม่ ปัจจุบันไม่ได้ปวดฟันเลยค่ะ 3. ส่วนตุ่มกลางหัว มีอาการปวดถ้าเอามือไปถูกบริเวณนั้นก็จะเจ็บหนังหัว และตอนนี้มีข้างซ้ายอีก 1 // ไป รพ.มา ในเบื้องต้นหมอบอกว่าน่าจะเป็นคล้าย ๆ สิว หรือไขมันอุดตันเกิดการอักเสบ และแนะนำให้ไปพบแพทย์ด้านผิวหนังอีกครั้งค่ะ |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
21 พฤษภาคม 2556 08:47:57 #4 สวัสดีครับ ผมขอตอบคำถามทีละข้อครับ 1. การตรวจ CT สมองนั้นก็บอกได้เลยว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้มีเลือดออก หรือกะโหลกศีรษะแตก ร้าวครับ บอกได้แน่นอนครับ แต่ถ้ามีปัญหาปวดศีรษะที่รุนแรงขึ้น มากขึ้นก้ไม่ได้เกี่ยวกับอุบัติเหตุนั้นๆ การตรวจ CT สมองก็ต้องพิจารณาใหม่ครับว่าจำเป็นต้องตรวจใหม่หรือไม่ครับ ไม่มีการระบุว่าจะต้องตรวจทุกกี่ปีครับ สรุปคือต้องดูอาการปวดศีรษะใหม่ว่ามีสาเหตุจากอะไรครับ 2. อาการปวดกรามอาจเกิดจากการปวดศีรษะที่มีปวดร้าวมาที่กรามก็ได้ หรือเป็นอาการปวดกรามจากกล้ามเนื้อบริเวณกรามมีการหดตัวครับ ต้องปรึกษาแพทย์โดยละเอียดอีกครั้งครับ แต่อย่างไรก็ตามคิดว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับฟันครับ 3. ตุ่มที่ศีรษะถ้าเป็นสิวหรือรูขุมขนอุดตันก็รักษาง่ายครับ เดี๋ยวก็หาย ก้ไม่เกี่ยวข้องกับอาการปวดศีรษะครับ |
Anonymous |
23 พฤษภาคม 2556 07:07:37 #5 1.ไปพบหมอด้านผิวหนังแล้วค่ะ หมอไม่ได้ตรวจดูตรงหนังหัว ฟังแต่อาการที่ดิฉันบอกว่ามีตุ่มขึ้นและเจ็บหนังหัว ปวดหัว หมอบอกว่าน่าจะเป็นเชื้อรา ให้ยาแก้อักเสบกับยาทา และให้เปลี่ยนยาสระผม พอกลับมาให้เพื่อนดูหนังหัว ปรากฏว่าไม่มีรอยแดง ไม่มีตุ่มที่เห็นได้ชัด ต้องคลำดูถึงรู้ว่ามีรอยนูนตรงกลางหัวค่ะ จะต้องทำอย่างไรดีคะ 2. ลืมบอกไปว่าตอนหัวกระแทกได้เอกซ์เรย์ 1 ตรั้ง และได้ ct scan หลังจากนั้น 3 เดือน แล้วจะมีผลต่อสมอง หรืออาการที่เป็นอยู่ปัจจุบันไหมคะ |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
23 พฤษภาคม 2556 11:30:03 #6 สวัสดีครับ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม เพราะหมอเองก็จะได้เรียนร฿เพิ่มขึ้นว่าสิ่งที่หมอได้แนะนำไปนั้นมีผลเป็นอย่างไรบ้างครับ สำหรับคำถามที่ 1 นั้น เมื่อขณะนี้ไม่มีรอยโรคแล้วที่หนังงศีรษะผมว่าไม่ควรจะต้องทำอะไรต่อครับ แต่ถ้าคิดว่าแพ้ยาสระผมเดิม เช่น เพิ่งเปลี่ยนมาก็มีอาการ ถ้าอย่างงี้ก็ควรเปลี่ยนยาสระผมครับ ส่วนยาที่ทานั้นก็ไม่จำเป็น เก็บไว้ใช้เมื่อมีปัญหาครับ ส่วนคำถามที่ 2 นั้น ก็ยิ่งทำให้เราสบายใจมากยิ่งขึ้นว่าไม่น่าจะมีอะไรจริงๆครับ เพราะตรวจซำถึงสองครั้ง ห่างกันสามเดือนก็ปกติดี สำหรับคำถามถ้าผมเข้าใจไม่ผิด คือกังวลใจว่าการตรวจเอกซเรย์คอมพิววเตอร์สมอง สองครั้งนั้นจะมีอันตรายหรือไม่ คำตอบคือปลอดภัยครับ ไม่มีผลเสียใดๆครับ |
Anonymous |
29 พฤษภาคม 2556 07:20:21 #7 เรียนคุณหมอ ตอนนี้อาการปวดหัวด้านซ้ายลดลง แต่ว่ามีอาการมึนงง และปวดหัวด้านหลัง เกี่ยวกับการมองเห็นด้วยไหมคะ เพราะตาข้างซ้ายมีอาการแสบตาบ้างและมองเห็นไม่ค่อยชัด มองไม่เต็มตา ยังกังวลอยู่คะ ต้องไปตรวจสายตาก่อนหรือเปล่าคะ |
Anonymous |
29 พฤษภาคม 2556 08:39:18 #8 ขอโทษค่ะขอเพิ่มข้อมูลอีก คือมีอาการปวดคอด้านซ้าย+ท้ายทอยด้วยค่ะ นวดเบา ๆได้ไหมคะ ส่วนใหญ่จะเป็นตอนบ่ายๆ หลังจากนั่งทำงานมาตั้งแต่เช้า ที่กังวลเพราะเป็นอยู่ข้างเดียว อาการประมาณนี้จะเป็นโรคได้บ้างคะ ถ้าไป รพ.แล้วแจ้งอาการแบบนี้เหตุผลเพียงพอที่หมอจะสั่งให้ ct scan หรือว่า MRI ไหมคะ หรือถ้าทำแล้วเราจะรู้ได้ว่าอาการที่เป็นอยู่เกิดจากอะไรไหมคะ รบกวนขอคำแนะนำค่ะว่าควรทำอย่างไรดี ตอนนี้กังวลมากค่ะ |
Anonymous |
29 พฤษภาคม 2556 08:45:59 #9 ขออีกนิดค่ะ อาการปวดคอ พอกดนวด จะมีอาการชาตรงคอและ หน้าข้างซ้าย ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
30 พฤษภาคม 2556 04:14:55 #10 สวัสดีครับ ผมตอบรวมเลยนะครับ ก่อนอื่นอาการดังกล่าวที่เล่ามานั้นน่าจะเกิดจากการที่กล้ามเนื้อหดตัวมากครับ อาจเกิดจากการทำงานหรืออยู่ในท่าที่ไม่ถูกต้องครับ การตรวจ CT นั้นผมคิดว่าไม่น่าจะจำเป็นครับ ส่วนเรื่องสายตานั้นถ้ามีโอกาสก็น่าจะพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีอาการผิดปกติทางตาแน่ๆก้ดีครับ จะได้มั่นใจว่ามีเพียงสาเหตุเดียวครับ |
Anonymous |
30 พฤษภาคม 2556 09:26:30 #11 ขอบคุณที่กรุณาให้คำตอบค่ะ อาทิตย์นี้จะไปพบจักษุแพทย์ แล้วจะแจ้งเพิ่มเติมนะคะ |
Anonymous |
31 พฤษภาคม 2556 06:01:28 #12 เรียนคุณหมอ ขอคำแนะนำว่าควรปฏิบัติตัว ดูแลตัวเอง และมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้างคะ |
Anonymous |
31 พฤษภาคม 2556 06:43:46 #13 ถ้าเป็นโรคนี้ มีอันตรายอะไรบ้างคะ ถ้ามีอาการปวดหัว กินยา tolperisone 50mg(mydocalm) หรือ ibuprofen 200mg(brufen) ได้ไหมคะ แล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง หรือยาพาราก็พอแล่้ว คุณหมอช่วยแนะนำด้วยค่ะ |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
2 มิถุนายน 2556 03:34:13 #14 สวัสดีครับ อาการปวดศีรษะที่เกิดจากการที่ศีรษะได้รับการกระแทกนั้นสามารถทานยาแก้ปวดที่บอกมา ได้ทั้งสองชนิดครับ ยา brufen อาจจะได้ผลดีกว่าครับ แต่ก็ไม่อยากให้ทานบ่อยๆครับ เพราะจะเกิดอาการผลแทรกซ้อนที่พบบ่อยๆคือการกัดกระเพาะอาหารครับ อาจต้องทานหลังอาหารทันทีครับ การดูแลตนเองคือระวังไม่ให้ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนซำ้อีกครับ และก็พักผ่อนให้พอ เพราะ ถ้าเราพักผ่อนไม่พอนั้นก็จะปวดศีรษะได้ง่ายครับ |
Smin*****i |
20 สิงหาคม 2557 13:37:31 #15 ขอถามค่ะพอดีมาอ่านเจอ เปนอาการคล้ายกันเลยค่ะ เหมือนมีตุ่มที่หลังหัว เพิ่งเป็นได้สองสามวันค่ะ และมีอาการปวดหัวภายใน1วันเป็นระยะๆ จะไม่ปวดทั้งวันค่ะ เป็นกังวลมากเลยค่ะ แบบนี้จะเป็นโรคร้ายหรือมีผลเสียอะไรมั๊ยค่ะ เกิดจากอะไรค่ะ |
Smin*****i |
20 สิงหาคม 2557 13:40:08 #16 เพิ่มเติมนิดนึงค่ะตุ่มนี้จะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ต้องใช้มือสัมผัสถึงจะทราบว่าเปนรอยนูนๆค่ะ |
Anonymous