กระดานสุขภาพ

อายุ 52 มีอาการเจ็บผิวหนังและชาบริเวณขา
Nets*****m

23 กุมภาพันธ์ 2560 12:44:11 #1

แม่ดิฉันอายุ 52 เป็นคนรูปร่างเล็ก น้ำหนัก58 กิโลกรัม มีอาการเจ็บจี๊ดๆบริเวณผิวหนังตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงไปถึงน่อง และผิวหนังบริเวณใต้ต้นขา และชาข้างในบริเวณดังกล่าว และหัวเข่าขัดๆ เวลาเดินจะรู้สึกขัดและเจ็บแปล๊บๆ คล้ายๆเป็นตะคริว เวลายืดขาจะรู้สึกตึงมาก เวลาจับหรือกดที่หัวเข่าจะรู้สึกเจ็บที่กระดูก พฤติกรรมประจำวันคือ ทำงานบริษัท นั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน พยายามลุกเดินบ่อยๆแล้ว ไปหาหมอ3 รพ. แล้ว ที่หนึ่งบอกว่าเป็นข้อเข่าเสื่อม ให้ยาแคลเซียมมาทาน อีกที่หนึ่งบอกว่าเป็นผิวกระดูกอักเสบ อาการดังกล่าวเป็นมาประมาณ5เดือนแล้วค่ะ เมื่อตอน ปี 2559 ได้รับการรักษาวัณโรคต่อมน้ำเหลือง ก่อนรักษาไม่มีอาการชาหรือเจ็บที่ขาเลย แต่พอรักษาเสร็จก็มีอาการนี้ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะกินยารักษาวัณโรคต่อมน้ำเหลืองหรือเปล่า รบกวนขอคำแนะนำคุณหมอด้วยค่ะ เพราะแม่ดิฉันเป็นอาการนี้มาสักพักแล้ว เปลี่ยนรพ. รักษาก็ยังไม่ดีขึ้นเลยค่ะ
อายุ: 52 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 152ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่า

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา

26 กุมภาพันธ์ 2560 15:02:09 #2

สวัสดีครับ อาการของคุณแม่นั้นคงไม่สามารถระบุได้ชัดลงไปแน่นอนว่าเกิดจากความผิดปกติของอะไรแน่นอน เพราะอาจเกิดได้จากทั้งข้อเข่าเสื่อม กล้ามเนื้อหดเกร็ง เส้นประสาทถูกกดทับ หรือแม้กระทั่งเกิดจากยารักษาวัณโรคที่ทานครับ การวินิจฉัยที่แน่นอนอาจต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติม เช่น การตรวจการทำงานของกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ แต่ในเบื้องต้นผมแนะนำให้ออกกำลังกายเกี่ยวกับข้อเข่า โดยการเกร็งกล้ามเนื้อต้นชา เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง และข้อเข่าก็จะดีขึ้น ส่วนอาการเจ็บที่ผิวหนังอาจต้องทานยาลดอาการของการปวดจากเส้นประสาท เช่น ยากลุ่มต้านเศร้า ชื่อ nortriptylline หรือ amitriptylline หรือ ยาชื่อ gabapentin ครับ

โชคดีครับ
นพ. สมศักดิ์