กระดานสุขภาพ
สเตียรอยด์กับภูมิคุ้มกัน | |
---|---|
6 มกราคม 2556 16:57:42 #1 1.เคยอ่านบทความมาครับ ว่าการทานยาที่มีสเตียรอยด์ สเตียรอดย์จะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน คือกดภูมิคุ้มกัน ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ อยากทราบว่า ถ้าผมทานยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ไปเพียง 1 มื้อ สเตียรอยด์ที่อยู่ในยานั้นจะมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเรามากน้อยแค่ไหน หรือไม่มีเลยครับ (ข้อนี้อยากทราบเป็นความรู้ครับ) 2.ตอนนี้มีอาการปวดศรีษะนิดๆมา 4 วันแล้ว เป็นตลอดทั้งวัน ทานอะไรก็เหมือนจะคลื่นไส้ แต่ปวดไม่หนักมาก แต่รู้สึกว่าปวด ทานยาไปก็หายปวดไม่ถึง 2 ชั่วโมง แล้วก็ปวดอีก ตื่นมาตอนเช้าก็เริ่มปวดเลย ก่อนหน้านี้ปวดแถวๆท้ายทอยมานาน แต่หมอก็บอกว่าเกิดจากความเครียดมาก อยากทราบว่า อาการแบบนี้เกิดจากอะไรหรือครับ (ข้อนี้เป็นอาการที่กำลังเป็นอยู่ครับ สงสัยว่าทำไมเป็นไม่หาย 4 วันแล้ว) ปล.แต่ส่วนตัวเป็นคนที่เครียดง่ายกับทุกเรื่อง ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับอาการปวดหัวหรือเปล่า |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 180ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.52 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
รศ.นพ.สมศักดิ์ เทียมเก่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอายุรกรรมประสาทวิทยา |
7 มกราคม 2556 15:48:39 #2 สวัสดีครับ อาการที่น้องเล่าให้ฟัง น่าจะเกิดจากความเครียดมากที่สุด เพราะตำแหน่งและอาการที่เล่าให้ฟัง แต่ก็อาจเป็นปวดศีรษะไมเกรนก็ได้ เพราะมีอาการจะคลื่นไส้ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นปวดศีรษะจากความเครียดหรือไมเกรน ความเครียดก็เป็นปัจจัยกระตุ้น ดังนั้นต้องผ่อนคลายครับ เช่นออกกำลังกาย ข้อมูลที่หมอต้องขอเพิ่มเติมคือ ลักษณะการปวด (ปวดตุ๊บๆ ปวดตื้อๆ ปวดแปล๊บๆ) ตำแหน่งที่เริ่มปวด ขมับ ท้ายทอย มีปวดร้าวไปที่ไหน เช่น กระบอกตาหรือไม่ ความรุนแรง ถ้าให้คะแนน 1-10 (1 เบาสุด 10 รุนแรงที่สุด) มีค่าคะแนนเท่าไหร่ มีอาการนำก่อนปวดศีรษะหรือไม่ เช่น แสงวูบวาบ เส้นซิกแซก ทำอะไรแล้วปวดมากขึ้น ทำอะไรแล้วดีขึ้นครับ |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
7 มกราคม 2556 15:51:06 #3 เรียน คุณ 445ba, จากที่คุณได้อ่านมา ถูกต้องเป็นบางส่วนครับ ปกติร่างกายเราก็เป็นโรงงานผลิตสเตียรอยด์ตามธรรมชาติอยู่แล้วนะครับ ส่วนยาสเตียรอยด์ที่คุณรับประทานเข้าไป จะเข้าไปออกฤทธิ์แทนสเตียรอยด์ที่มีการสร้างตามธรรมชาติ ออกฤทธิ์แรงกว่า เร็วกว่า เพราะไม่ต้องรอสร้าง ส่วนใหญ่มีค่าครึ่งชีวิต (หมายถึงว่ายาจะถูกกำจัดไปทีละ 50%) ประมาณ 8 ชั่วโมง ดังนั้นหากรับประทานมื้อเดียว ครั้งเดียว ประมาณ 24 ชั่วโมง ก็แทบจะวัดปริมาณยาคงเหลือในกระแสเลือดไม่ได้แล้ว แต่บางโรคกลับได้ประโยชน์จากการกดภูมิคุ้มกัน เช่น ภูมิแพ้ตัวเอง SLE (โรคพุ่มพวง) หรือผู้ป่วยที่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ดังนั้นยานี้ต้องมีใบสั่งใช้ยาจากแพทย์เท่านั้น เพราะต้องปรับให้เข้ากับผู้ป่วยแต่ละราย หรือ แต่ละโรคไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครับ ยา 1 เม็ดที่คุณกินไป ไม่เกิน 24 ชั่วโมงก็ถูกกำจัดไปหมดแล้ว
หวังว่าจะตอบคำถามของคุณนะครับ |
Anonymous