ถึง คุณ po.por.52

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้าออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ po.por.52 ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ

เรียน คุณ po.por.52

ยาที่คุณสอบถามมานั้นเป็นยาสวนทวารหนัก มีส่วนประกอบคือน้ำเกลือเข้มข้น 15% (ในเลือดคนเราเท่ากับ 0.9%)
จึงดึงน้ำเข้ามาในลำไส้ใหญ่ ทำให้กระตุ้นให้เกิดการถ่าย การใช้บ่อย ๆโดยไม่มีความจำเป็น อาจทำให้ลำไส้บีบตัวมากเกิน หรือลำไส้บางลง จนอาจเกิดการฉีกขาดหรือเป็นแผลได้ หากใช้บ่อย ๆจะทำให้เกิดโรคลำไส้เฉื่อย ต้องเพิ่มขนาดยาขึ้นเรื่อย ๆ กลายเป็นโรคท้องผูกเรื้อรัง หรือเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ เนื่องจากมีการกระตุ้นให้เกิดการระคายเคืองบ่อย ๆ ให้ใช้ยานี้เมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น ควรปรับพฤติกรรมสุขภาพแทน เช่น การรับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยสูงเพิ่มขึ้น ควรเป็นผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด ข้าวกล้องหรือข้าวซ้อมมือก็ดีนะครับ ช่วยทำให้อิ่มนานด้วย ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ ถ้าเป็นไปได้แบบแอโรบิค อย่างน้อย 30 นาที จะช่วยเผาผลาญไขมันได้ ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ ถ้าไม่มีข้อจำกัดทางสุขภาพ อย่างน้อย 3 ลิตรต่อวัน หากยังไม่ถ่าย แนะนำวิธีธรรมชาติก่อน เช่น การรับประทานมะขามเปียก แบบที่ไม่คลุกน้ำตาล พร้อมกับดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ

หากปรับพฤติกรรมแล้ว ยังมีอาการท้องผูกเรื้อรัง แนะนำให้พบแพทย์ เนื่องจากหากมีการใช้ยาระบายหรือยาสวนทวารหนักเป็นประจำ จนเกิดโรคลำไส้เฉื่อยไปแล้ว ต้องค่อย ๆแก้ปัญหาโดยค่อย ๆปรับลดยาที่คุณเคยใช้อยู่ประจำ จนอาการดีขึ้น

เป็นกำลังใจให้ครับ

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราครับ

• ท้องผูก (Constipation) โดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ แพทย์หญิง พวงทอง ไกรพิบูลย์
• ยาแก้ท้องผูก (Anticonstipation) โดย เภสัชกร อภัย ราษฎรวิจิตร