กระดานสุขภาพ

ยาเร่งประจำเดือน
Tpo*****o

15 กรกฎาคม 2556 15:34:05 #1

คือประจำเดือนยังไม่มาค่ะถ้าจะทานยาเร่งประจำเดือนจะเป็นอันตรายต่อตัวไหมค้ะคือเป็นเหมือนว่าโลหิตจางค่ะมีอาการเหนื่อยๆล้ะออ่นเพลียป่วยบ่อยอยู่ กลัวทานยาเร่งแล้วจะทำให้ขาดเลือดค้ะ

อายุ: 16 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 40 กก. ส่วนสูง: 150ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.78 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

16 กรกฎาคม 2556 17:19:04 #2

เรียน คุณ tpo,

ไม่แน่ใจในคำถามของคุณนะครับ ว่าจนอายุ 16 ปีนี้แล้ว ประจำเดือนยังไม่มา
หรือว่าประจำเดือนรอบนี้มาล่าช้า อยากให้ประจำเดือนมาก

หากเป็นคำถามแรก แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอสูติ นรีแพทย์นะครับ เพื่อตรวจสุขภาพว่ามีปัญหาผิดปกติที่อวัยวะในช่องท้องหรือไม่ มดลูก หรือรังไข่
คำถามที่สอง ไม่มียาเร่งประจำเดือนนะครับ หากเป็นพวกยาสตรีทั้งหลายที่โฆษณา ก็เป็นเพียงทำให้ประจำเดือนมาเป็นปกติเท่านั้น

หรือหมายถึง ประจำเดือนยังไม่มาในรอบนี้ ล่าช้ากว่าปกติ แนะนำให้รอก่อนนะครับ เนื่องจากในวัยสาวประจำเดือนมักมาคลาดเคลื่อน ไม่ตรงตามรอบ เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายยังไม่ค่อยคงที่

ดูจากข้อมูลของคุณแนะนำให้พบสูติ-นรีแพทย์จะดีกว่านะครับ เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอียด เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพด้านอื่นร่วมด้วย เรื่องสงสัยโลหิตจาง คงต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด หากขาดธาตุเหล็ก ก็จะได้ให้วิตามินเสริม หรือเป็นโรคเลือดอื่น เช่น ธาลัสซีเมีย อาจเสริมด้วยโฟเลตแทน (ห้ามรับประทานธาตุเหล็กเสริมเด็ดขาด เนื่องจากอาจเป็นอันตรายต่อไต จนถึงแก่ชีวิตได้)

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Tpo*****o

17 กรกฎาคม 2556 12:06:19 #3

คือประจำเดือนมาล่าช้าค้ะ เมื่อเดือนที่แล้วทานยาคุมไปค่ะแต่พอยาหมดแผงก็เลิกทาน ประจำเดือนก็มาแต่มาน้อยกว่าปกติที่เคยมา จะมา7วัน แต่พอทานยาคุมก็มาแค่3วัน จะเกี่ยวกันไหมค่ะว่ายาคุมจะทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

18 กรกฎาคม 2556 04:34:12 #4

เรียน คุณ Tpo,

ไม่ทราบว่ารับประทานยาคุมกำเนิดเพื่อวัตถุประสงค์ใด เป็นการคุมกำเนิด หรือเพื่อปรับรอบประจำเดือน

- หากเป็นการคุมกำเนิด ก็ต้องรับประทานอย่างต่อเนื่องนะครับ หรือพิจารณาใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย

- หากเป็นการรับประทานเพื่อปรับประจำเดือน ก็ต้องรับประทานติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือนนะครับ ทั้งปริมาณและรอบประจำเดือนด้วยครับ เนื่องจากจะทำให้แต่ละรอบเดือนมีระยะเวลา 28 วัน

เหมือนกันทุกเดือนครับ แต่ปริมาณอาจมากบ้างน้อยบ้าง แล้วแต่ชนิดหรือปริมาณของฮอร์โมนในแต่ละตัวยา
ยาคุมกำเนิดอาจมามากหรือน้อยกว่า 7 วันนะครับ แต่ ๆละรอบเดือนจะเป็น 28 วันแน่นอนครับ ไม่คลาดเคลื่อน ยกเว้นว่าคุณจะกิน ๆหยุด ๆทำให้ระบบสมองหลั่งฮอร์โมนสับสนไปเอง

ถ้า 3 เดือนแล้วประจำเดือนยังไม่มา โดยไม่มีประวัติมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายเพิ่มเติมครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

Tpo*****o

18 กรกฎาคม 2556 13:22:54 #5

- ทานเพื่อคุมกำเนิดค่ะ

เมื่อวันที่ 2 ก.ค มีอะไรกับแฟนแต่ไม่สอดใส่กันค้ะแฟนแค่เอาอวัยวะมาจ่อที่ของเราแล้วมีน้ำใสๆออกมาจากของแฟนแบบนี้จะทำให้ท้องรึเปล่าค้ะ

แล้วกังวลด้วยว่าประจำเดือนยังไม่มาและไม่ได้ทานยาคุมกำเนิดด้วยในเดือนนี้เพราะเดือนที่แล้วหลังจากทานยาคุมหมดแล้วประมาณ2วันประจำเดือนถึงจะมาก็คือ ยาคุมหมดวันที่ 18 มิย. ประจำเดือนมาวันที่ 20 มิย. มาแค่ 3วัน

แล้วเดือน ก.ค ก็มามีไรกันวันที่ 2กค.ค้ะ ก็เลยอยากทราบว่าเป็นเพราะยาคุมกำเนิดที่เราทานไปเมื่อเดือนที่แล้วหรือเพราะมีอะไรกับแฟนรึเปล่า หรือว่าเพราะอาจจะเป็นเพราะดิฉันเครียดเกินไปจึงทำให้ประจำเดือนมาช้า ค้ะ 

ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

19 กรกฎาคม 2556 01:24:30 #6

เรียน คุณ tpo,

เนื่องจากคุณไม่ได้แจ้งมาว่ารับประทานยาคุมกำเนิดต่อเนื่อง สม่ำเสมอ หรือไม่

จากข้อมูลที่ให้มา ยาคุมแผงก่อนหน้าหมดเมือวันที่ 18 มิ.ย. ดังนั้นแผงต่อไปคุณควรจะรับประทาน ในวันที่ 26 มิ.ย.
ช่วงที่รับประทานยาก็จะไม่มีประจำเดือน เนื่องจากเป็นช่วงที่เยื่อบุโพรงมดลูกเพิ่งหนาตัว ยังไม่มีการหลุดลอก
ถ้ารับประทานยาถูกต้อง สม่ำเสมอ ไม่ลืมรับประทานยา โอกาสตั้งครรภ์น้อยมากนะครับ

ส่วนที่ว่าประจำเดือนมาแค่ 3 วัน ตามหลักการแล้ว การรับประทานยาคุมกำเนิดเมื่อยาหมดแล้ว ไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะมาหรือไม่ จะมาปริมาณมากหรือน้อย มา 3 วันหรือ 5 วัน
เมื่อหยุดยา หรือรับประทานวิตามิน/เม็ดแป้ง ครบ 7 วันแล้ว ให้รับประทานยาคุมกำเนิดแผงใหม่ได้เลย
แต่เท่าที่อ่านทบทวน ประจำเดือนคุณเพิ่งมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ดังนั้น ประจำเดือนกรกฎาคม ก็ยังไม่สมควรมานะครับ เนื่องจากยังไม่ครบรอบเดือน

ส่วนเรื่องตั้งครรภ์ ถ้าคุณไม่ได้รับประทานยาคุมกำเนิดในวันที่ 26 มิ.ย. โอกาสตั้งครรภ์ก็มีนะครับ แม้จะน้อย เนื่องจากอาจมีอสุจิอยู่ในน้ำหล่อลื่นได้

อ่านดูแล้วคุณค่อนข้างสับสนและยังมีความเข้าใจเรื่องการใช้ยาคุมกำเนิดและรอบประจำเดือนไม่ชัดเจน แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หรือที่ศูนย์วางแผนครอบครัวจะดีกว่าะนะครับ คุณหมอหรือคุณพยาบาลจะให้คำอธิบายได้กระจ่างมากกว่า การสอบถามทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ เนื่องจากมีแผ่นภาพ หรือวิดีโอ ที่เป็นสื่อการสอนที่เข้าใจง่ายกว่าสอบถามไปมาครับ

 

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล