แล้วเมื่อถึงวันไหนที่ตื่นเช้า สามารถกินเวลาปกติได้ไหม หรือควรกินแบบเดิม จนครบ 1 อาทิตย์ครับ 

ยาที่กินมี

Ranclav 1 G ให้กินหลังอาหาร เช้า-เย็น

Cetizal 5 mg กินหลังอาหารเช้า

Maxiphed หลัง อาหาร เช้า-เย็น

Vocin 500 mg หลังอาหารกลางวัน ไม่กินพร้อมนม

Bepeno แคปซูล 1 ครั้ง ก่อนนอน

ส่วนคำถามก็ตามที่สงสัยตามเวลาข้างบนเลยครับ ตอนนี้ผมตื่นเที่ยง มา 2 วัน แต่ก็ทานครบครับ โดยเว้นระยะห่างของยา 4-5 ชม ต่อมื้อครับ 

และพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าด้วย จะกินตามเวลาปกติได้ไหมครับ 

เรียน คุณ santirat_,

จากข้อมูลที่คุณให้มานั้น ตัวยา

1. Ranclav (1 G) ใน 1 เม็ดประกอบด้วยตัวยาปฏิชีวนะ amoxicillin 875 mg + clavulanic acid 125 mg
ตัวยานี้อาหารไม่มีผลต่อการดูดซึม เพียงแต่การรับประทานยาหลังอาหารจะช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องอืดได้

2. Crizal (5 MG) ใน 1 เม็ดประกอบด้วยตัวยา levocetirizine ซึ่งเป็นยาบรรเทาอาการแพ้อากาศ หรือลดน้ำมูก ได้

ตัวยานี้อาหารไม่มีผลต่อการดูดซึม 1 เม็ดสามารถออกฤทธิ์ได้ 24 ชั่วโมง

3. Maxiphed (60 MG) ใน 1 เม็ดประกอบด้วยตัวยา pseudoephedrine ช่วยลดอาการคัดแน่นในโพรงจมูก หรือเสมหะลงคอได้

ตัวยานี้อาหารไม่มีผลต่อการดูดซึมเช่นเดียวกัน

4. Vocin (500 MG) ใน 1 เม็ด ประกอบด้วยตัวยาปฏิชีวนะ levofloxacin ตัวยาออกฤทธิ์ 24 ชั่วโมง
ควรรับประทานยาหลังอาหาร แต่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานยาพร้อมนม ยาลดกรดเคลือบกระเพาะ วิตามินเสริมธาตุเหล็ก เนื่องจากจะทำให้เกิดการตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้

5. Bepeno capsule ประกอบด้วยตัวยา brompheniramine 4 mg + phenylephrine 10 mg ซึ่งเป็นตัวยาบรรเทาอาการแพ้ + ตัวยาแก้คัดจมูก

ตัวยาออกฤทธิ์ได้เร็ว แต่มีอาการไม่พึงประสงค์ด้านง่วงซึม

จากข้อมูลการตื่นเที่ยงของคุณ

แนะนำให้ปรับเวลา

1. ตัวยา Ranclav เป็นทุก 12 ชั่วโมง ดังนั้นหากรับประทานมื้อแรกเที่ยงวัน มื้อต่อไปควรเป็นเวลา ห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน

2. Crizal รับประทานเที่ยงของทุกวันได้เลยครับ จะได้เป็นเวลาเดียวกันของทุกวัน

3. Maxiphed ปรับเป็นรับประทานยาทุก 10-12 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวยาสม่ำเสมอตลอดวัน

4. Vocin ให้รับประทานเป็นเวลาหลังอาหารกลางวัน วันละ 1 ครั้งเหมือนเดิมของทุกวัน

5. Bepeno ก็ให้รับประทานยาก่อนเข้านอนตามเวลาจริง เนื่องจากตัวยามีอาการไม่พึงประสงค์ด้านง่วงซึม

แต่เนื่องจากไม่ได้แจ้งเวลาเข้านอน เมื่อต้องตื่นนอนเช้ามา หากเข้านอนเร็วกว่า ห้าทุ่ม ก็อาจปรับตัวยา 1 และ 3 เป็นเวลาประมาณ 21-22 นาฬิกาได้ครับ

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรประจำสถานพยาบาลได้ทันที

ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจต้องมีการสอบถามข้อมูลจำเป็นอื่น ๆเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณาการปรับแก้ปัญหาจากการใช้ยา หรือในบางครั้งอาจช้าเกินไป ไม่ทันเวลา เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพจนถึงชีวิตได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

ประดิษฐ์

เข้าใจแล้วครับ ขอบคุณมากครับ