กระดานสุขภาพ
เคยกินยาคุมยี่ห้ออื่นมา แต่อยากเปลี่ยนไปกินยี่ห้ออื่นทำได้มั้ย | |
---|---|
10 มิถุนายน 2562 04:03:38 #1 พอดียาคุมที่กินอยู่ตอนนี้ เรากินแล้วเหมือนจะแพ้ จะเวียนหัวอยู่บ่อยๆค่ะ เลยอยากเปลี่ยนไปกินยี่ห้ออื่นจะได้หรือเปล่าคะ นี่ก็พยายามดูยาคุมที่กินแล้วไม่แพ้อยู่ค่ะ |
|
อายุ: 26 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 48 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Ffdd*****c |
11 มิถุนายน 2562 10:16:45 #2 ทำได้นะ เราก็เคยแพ้ยาคุมตัวอื่นมา แล้วเปลี่ยนมากิน minidoz ถึงไม่แพ้แล้วก็กินมาตลอดเลย |
Ndre*****a |
12 มิถุนายน 2562 10:04:04 #3 ก็ต้องเลือกดูยาคุมที่ค่าฮอร์โมนต่ำ มันก็จะผลข้างเคียงไม่เยอะ จะได้ไม่แพ้ค่ะ |
Just*****w |
13 มิถุนายน 2562 03:44:50 #4 กินได้ค่ะ ถ้าแพ้ก็ต้องเปลี่ยนเลย เรานี่แพ้ยาคุมอันนึงหนักมาก พอหมดแผงนั้น ต่อเป็น Minidoz เลยค่ะ ค่าฮอร์โมนเค้าไม่สูง อันนี้ไม่แพ้แล้ว |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
20 มิถุนายน 2562 14:54:20 #5 เรียน คุณ Trevor, สืบเนื่องจากคุณไม่ได้ให้ข้อมูลวัตถุประสงค์ของการรับประทานยาคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดยี่ห้อเดิมที่เคยรับประทานยาแล้วพบอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ครับ เนื่องจากต้องมีการสอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆเพิ่มเติม และต้องไม่มีข้อห้ามใช้ในการรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือน เช่น ไม่มีก้อนที่เต้านมหรือมดลูกหรือรังไข่ ไม่มีโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดสมองหรือหัวใจ หรืออวัยวะส่วนปลาย เป็นต้น โดยทางการแพทย์หากต้องการรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือน ทั้งเพื่อการรักษาหรือเพื่อการคุมกำเนิด จะพิจารณาจากข้อมูลเบื้องต้น ได้แก่ - หญิงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่นชัด มักมีรูปร่างอกเอวชัดเจน ผิวค่อนข้างแห้งหรือผิวผสม รูขุมขนค่อนข้างเล็ก เส้นขนเล็กหรือบาง รูปแบบการมีประจำเดือน มักมาปริมาณมาก (อาจต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยหลายแผ่นต่อวัน) จำนวนวันค่อนข้างมาก (5-7 วัน) รอบระยะการมีประจำเดือนมักอยู่ในช่วง 28-35 วัน แบบนี้เหมาะกับการเลือกยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเด่นชัด เพื่อปรับให้เกิดความสมดุลฮอร์โมนร่างกาย แบบนี้เหมาะกับยาคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนเด่นชัด เพื่อให้ฮอร์โมนเพศของร่างกายเกิดความสมดุล การรับประทานยาคุมกำเนิดที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักวิชาการ 1. ควรรับประทานยาก่อนเวลาเข้านอน เพื่อลดอาการไม่พึงประสงค์ด้านเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และควรรับประทานยาในช่วงเวลาเดียวกันของทุกวัน เพื่อให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอตลอดวัน ป้องกันการลืมรับประทานยา ลดโอกาสที่จะเกิดอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยระหว่างเดือน 2. รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาด เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยามีการละลายลดลง เกิดการตกตะกอน ร่างกายไม่สามารถดูดซึมยาได้ เช่น ชา (ชาขาว ชาเขียว ชาแดง) กาแฟ โกโก้ นม (รวมถึงโยเกิร์ต) น้ำนมถั่วเหลือง โซดา น้ำอัดลม เป็นต้น หรือน้ำผลไม้บางชนิดพบว่ากระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งในการเผาผลาญหรือกำจัดยา มีการผลิตเอนไซม์(น้ำย่อย)ที่ใช้เผาผลาญหรือทำลายยาเพิ่มมากขึ้น ร่างกายจึงอาจกำจัดตัวยาสำคัญได้มากหรือเร็วขึ้น จนไม่เกิดผลในการรักษา หรือเกิดเป็นสารพิษได้เร็วขึ้น เช่น น้ำส้มคั้น น้ำเกรปฟรุต (จำพวกเดียวกับส้มโอ) น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี่ เป็นต้น 3. "ก่อน" การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นใด ต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา "ยาตีกัน" จนตัวยาไม่สามารถออกฤทธิ์ในการรักษา หรืออาจเสริมฤทธิ์กันจนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้ หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจขาดข้อมูลจำเป็นบางประการ เพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ หรือในบางครั้งอาจช้าเกินไป ไม่ทันเวลา เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล |
Trev*****r