กระดานสุขภาพ

สอบถามเรื่องยาคุมกำเนิดค่ะ
Mabu*****b

20 มีนาคม 2562 06:06:34 #1

ปกติกินยาคุมกำเนิดยี่ห้อyazแบบ28เม็ดค่ะ ขออนุญาตเล่าเดือนก่อนๆด้วยนะคะเป็นข้อมูลให้คุณหมอ 4/2/62 หมดแผงเก่าจะเลิกกินเลยหยุด 7-11/2/62 ประจำเดือนมา 3/3/62 ทีนี้เริ่มกินแผงใหม่เพื่อเลื่อนประจำเดือน 7/3/62มีเพศสัมพันแบบป้องกัน 8/3/62 เลิกกินยาแผงนี้เพื่อให้ประจำเดือนมา 11/3/62 ประจำเดือนมาเป็นวันแรก เลยเริ่มแผงใหม่อีก(จะกินต่อเนื่องรอบนี้แล้วค่ะ) 16/3/62 ประจำเดือนหมด ออกเป็นน้อยๆแต่ยังมีเลือดเปื้อนๆอยู่ 18/3/62 มีเพศสัมพันธ์ 1 ครั้ง ไม่ได้ใช้ถุงยาง ไม่ได้หลั่งใน (รวมแล้ววันนี้กินยาคุมแผงใหม่มาได้8เม็ด กินตั้งแต่ประจำเดือนมาวันแรก) ในกรณีนี้ -ยาคุมออกฤทธิ์เต็มที่รึยังคะ มีโอกาศตั้งครรภ์รึเปล่า -จำเป็นต้องทานยาคุมแบบฉุกเฉินกันด้วยมั้ย ขอบคุณค่ะ
อายุ: 25 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 51 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.50 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

29 มีนาคม 2562 02:54:41 #2

เรียน คุณ Mabuab,

ก่อนตอบคำถามของคุณ ขออนุญาตให้ข้อมูลว่า การรับประทานยาคุมกำเนิดนั้น ควรตัดสินใจให้แน่นอนว่าต้องการรับประทานยาต่อเนื่องหรือไม่

การรับประทานยาแบบไม่ต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และระบบการสร้างฮอร์โมนเพศได้

กลับมาที่คำถามของคุณ ในช่วงวันที่ 11 มีนาคม ถ้าเริ่มรับประทานยาคุมกำเนิดในวันแรก ยาเม็ดแรกจะออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่รับประทานยาครบ 24 ชั่วโมงครับ ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแต่ประการใด และไม่แนะนำให้มีการรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือนร่วมกับยาคุมกำเนิดชนิดฉุกเฉินนะครับ เนื่องจากอาจส่งผลต้านฤทธิ์การคุมกำเนิด หรืออาจทำให้เกิดภาวะประจำเดือนผิดปกติ ไม่มาตามกำหนด โดยที่ไม่ทราบว่าเกิดจากฤทธิ์ของยา หรือเกิดจากการตั้งครรภ์

ขออนุญาตให้ข้อมูล การรับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือน ควรรับประทานยาสม่ำเสมอ ในช่วงเวลาเดียวกันของทุกคืน เพื่อป้องกันการลืมรับประทานยา และช่วยให้ระดับยาในเลือดค่อนข้างคงที่ตลอด 24 ชั่วโมง จะได้ป้องกันการเกิดเลือดออกกะปริบกะปรอย

รับประทานยา "ทุกชนิด" ด้วยน้ำเปล่าสะอาดเท่านั้น เนื่องจากเครื่องดื่มบางชนิดจะทำให้ตัวยามีการละลายลดลง เกิดการตกตะกอนในทางเดินอาหาร ร่างกายไม่สามารถดูดซึมตัวยาได้ เช่น ชา (ชาขาว ชาเขียว ชาแดง) กาแฟ โกโก้ นม (รวมถึงโยเกิร์ต) น้ำเต้าหู้ โซดา น้ำอัดลม ฯ หรือน้ำผลไม้บางชนิดเมื่อดื่มติดต่อกันเป็ฯเวลานาน จะกระตุ้นให้ตับที่เป็นแหล่งเผาผลาญหรือกำจัดยา/สารแปลกปลอม มีการสร้างเอนไซม์หรือน้ำย่อยที่ใช้กำจัดยาเพิ่มขึ้น จึงกำจัดยาได้มากและเร็วขึ้น เช่น น้ำเกรปฟรุต (จำพวกเดียวกับส้มโอ) น้ำส้มคั้น น้ำแอปเปิ้ล น้ำแครนเบอร์รี่ ฯ

ส่วนยาคุมกำเนิดฉุกเฉินในทางการแพทย์นั้น จะมีการใช้ต่อเมื่อไม่สามารถวางแผนในการคุมกำเนิดได้ตามปกติ เช่น เมื่อถูกข่มขืน หรือเกิดจากการใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกต้อง จนเกิดการฉีกขาด รั่วซึม ไม่แนะนำให้นำมาใช้แทนการคุมกำเนิดปกติ เนื่องจากอัตราเสี่ยงในการตั้งครรภ์ค่อนข้างสูง คือ 8-15 เปอร์เซ็นต์ (เทียบกับยาคุมกำเนิดปกติ หากรับประทานยาอย่างถูกต้อง สมำ่เสมอ จะมีเพียงน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์) และความแรงของยาค่อนข้างมาก คือ 1,500 ไมโครกรัม (เทียบกับยาคุมกำเนิดปกติ ที่มีเพียงเม็ดละ 75-150 ไมโครกรัม)

นอกจากนี้ ไม่แนะนำให้รับประทานยาเกิน 2 ชุดต่อเดือน เนื่องจากจะเพิ่มความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากการตกเลือดในช่องท้อง จากการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้

และยังมีรายงานเรื่องสตรีที่รับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเกิน 3 กล่อง ตลอดชีวิต จะมีความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่ออวัยวะต่าง ๆสูงกว่า สตรีที่รับประทานยาคุมกำเนิดปกติ เช่น มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งตับ เป็นต้น

หากมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา/ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ไม่ควรรอคำตอบจากทางหน้าเว็บ เนื่องจากอาจต้องมีการสอบถามข้อมูลต่าง ๆเพ่ิมเติม หรืออาจช้าเกินไป จนอาจเสี่ยงเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จนถึงแก่ชีวิตได้


เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล


แนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราที่

  • ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill)
  • แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา
  • สูตินรีแพทย์
  • ยาลดประสิทธิภาพยาคุมกำเนิด (Common medications that reduce efficacy of birth control medications)
  • ภก. กรชัย ฉันทจิรธรรม