กระดานสุขภาพ
Progynova กับ Provera | |
---|---|
16 พฤศจิกายน 2561 02:01:54 #1 มีนาคม 2560 พบมะเร็งลำไส้ระยะ3 (Lynch syndrome) ตัดลำไส้ใหญ่ออกทั้งหมดรวมต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ทำเคมีบำบัด 12ครั้ง สิ้นสุดในตุลาคม2560 เมษายน 2561 ตัดมดลูก รังไข่ ปากมดลูก เหตุผลเพราะ Lynch syndrome กรกฎาคม 2561 ได้รับยา Provera 5 mg 1เม็ด เช้า-เย็น 3เดือน แต่คลื่นใส้มาก แพทย์เปลี่ยนเป็นแบบทา พบตามนัด พฤศจิกายน 2561 ได้ยา Progynova 1mg 1เม็ด ก่อนนอน 6เดือน ขอถามว่า ยาที่ได้รับ ต่างกันอย่างไร ระหว่าง provera กับ Progynova ผลข้างเคียงที่จะส่งผลกับร่างกายมากน้อยต่างกันยังไง และถ้าหากไม่กินยา แต่กินอาหารกลุ่มที่มีฮอร์โมนแทนจะดีหรือไม่//ขอบคุณค่ะ
|
|
อายุ: 40 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 174ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.77 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผลเภสัชกร |
18 พฤศจิกายน 2561 19:45:20 #2 เรียน คุณ Kunniya, ขออนุญาตตอบเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับยานะครับ ส่วนที่จะส่งผลต่อร่างกายหรือไม่ แนะนำให้สอบถามจากแพทย์ที่ทำการรักษาจะได้รับข้อมูลที่ตรงกับผู้ป่วยเฉพาะบุคคลมากกว่า เนื่องจากขาดข้อมูลผลการตรวจร่างกาย ภาวะการทำงานของตับหรือไต ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆที่มีการใช้ร่วมกัน ตัวยา Provera ตัวยาสำคัญ medroxyprogesterone เป็นฮอร์โมนประเภทโปรเจสติน คุณสมบัติคือช่วยปรับสมดุลกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย เป็นฮอร์โมนที่รังไข่มีการหลั่งเพื่อป้องกันไม่ให้มีไข่ตก ยับยั้งไม่ให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีการฉีกขาดหรือหลุดลอกเป็นประจำเดือนก่อนกำหนด โปรเจสตินนี้สำคัญหากมีการตั้งครรภ์ โดยจะมีการหลั่งจากรก เพื่อให้ทารกอยู่ในครรภ์มารดาได้ตลอดอายุครรภ์ (ประมาณ 36-40 สัปดาห์) ตัวยา Progynova หรือ estradiol เป็นฮอร์โมนเพศจำพวกเอสโตรเจน มีคุณสมบัติที่ช่วยเรื่องการเจริญเติบโตของเต้านม หรือให้ไข่ในรังไข่มีการเจริญเติบโต รอวันไข่ตก ฮอร์โมนนี้นอกจากช่วยในเรื่องความสมดุลของฮอร์โมนเพศ ยังช่วยป้องกันภาวะกระดูกพรุน และในบางการวิจัยยังพบว่าช่วยป้องกันภาวะหลอดเลือดอุดตัน กลับมาที่คำถามของคุณ ต้องขึ้นกับประเภทและระยะของมะเร็งที่คุณเป็น การเสริมฮอร์โมนเพศต้องปรับให้เกิดสมดุลของฮอร์โมนเพศในร่างกายว่ามีฮอร์โมนเพศชนิดใดเด่นกว่า การรับประทานยาที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ หรือที่เรียกว่าวัยทอง (ก่อนเวลาอันควร เนื่องจากมีการผ่าตัดนำรังไข่ที่เป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนออกไป) ส่วนการรับประทานอาหารหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีคุณสมบัติ Phytoestrogen ต้องขึ้นกับว่าเป็นประเภทใด ขัดกับการรักษาหรือไม่ การได้รับจากอาหารนั้นนับว่ามีข้อดีคือได้จากธรรมชาติ แต่ข้อเสียคือไม่ทราบปริมาณที่แน่นอน บางล็อตการผลิตก็อาจจะมีมากหรือน้อย หากรับประทานในสัดส่วนที่ไม่ทราบแน่นอน อาจเกิดผลเสียต่อการรักษามากกว่า ทั้งนี้ต้องระวังแหล่งปลูก และกระบวนการในการผลิตที่มีคุณภาพ ไม่มีสิ่งเจือปน หรือสารเคมีอันตราย
|
Kunn*****a |
21 พฤศจิกายน 2561 13:00:10 #3 ขอบคุณมากค่ะ แพทย์นัดอีกหกเดือน จะปรึกษาเขาอีกทีค่ะ |
Kunn*****a