เรียน คุณ bc39f,

ขอแยกคำตอบตามประเด็นนะครับ

1. เนื่องจากไม่ทราบว่าแต่ละตัวมีสัดส่วนเท่าใด และมีส่วนประกอบอื่นใดบ้านหรือไม่ ดังนั้น ไม่แนะนำให้รับประทานยาร่วมกับการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆนะครับ

เพราะไม่มีข้อมูลการศึกษาวิจัยว่าเกิดปฏิกิริยาต่อกันหรือไม่ และยังอาจเกิดผลเสีย หากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือเป็นผลิตภัณฑ์ปลอมที่มีการปลอมปนยาที่ใช้ลดน้ำหนักที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหลายประเทศแจ้งยกเลิกการใช้แล้ว เช่น fenfluramine, sibutramine ที่มีการออกข่าวมีการตรวจจับบ่อย ๆ

2. แนะนำเพิ่มเติมเรื่องการควบคุมน้ำหนัก เน้นการควบคุมอาหารและเพิ่มการออกกำลังกาย จะทำให้ผลลัพธ์ยั่งยืนมากกว่า นอกจากนี้การออกกำลังกายยังช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ช่วยเร่งการเผาผลาญแคลอรี่ และช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันกลับมาแทรกได้โดยง่าย

• - ควรปรับสัดส่วนอาหารให้เป็นผักครึ่งหนึ่ง (เน้นผักสด ผลไม้ที่มีรสไม่หวานจัด) / โปรตีนที่ดี 25 เปอร์เซ็นต์ (เช่น เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ (ไม่เอาหนัง) เป็นต้น) คาร์โบฮัยเดรต อีก 25 เปอร์เซ็นต์ (เน้นเป็นแป้งไม่ขัดสี เช่น ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีต เป็นต้น)
• - เลือกการปรุงอาหารเป็น นึ่ง ต้ม มากกว่าการทอดหรือปิ้งย่าง
• - ปรับสัดส่วนอาหารของวัน ให้เป็น หนัก - (มื้อ) เข้า / เบา - (มื้อ) เที่ยง / เลี่ยง - (มื้อ) เย็น / เว้น - (มื้อ) ดึก เนื่องจากช่วงกลางวัน ร่างกายยังคงมีการใช้พลังงานอยู่ จะได้ไม่มีเหลือตกค้าง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเกิดโรคกรดไหลย้อน จากการกินอาหารแล้วเข้านอนเลย
• - ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 30 นาที และอย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ งดการใช้เครื่องทุนแรงในการเดินทาง เช่น เลือกใช้บันได หรือลิฟต์หรือบันไดเลื่อน อาจกดลิฟต์ให้ถึงก่อนชั้นที่ต้องการ 3 ชั้น และขึ้นบันไดแทน / ถ้าระยะทางไม่ไกลมาก ก็อาจเดินแทนการขึ้นมอเตอร์ไซค์รับจ้าง
• - นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง และควรเข้านอนก่อนเวลา 23 นาฬิกา เนื่องจากช่วงเวลาที่ร่างกายหลับสนิท ประมาณ เที่ยงคืนถึงตีสอง ต่อมใต้สมองจะมีการหลั่ง Growth Hormone เพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย นอกจากนี้การนอนดึก หรืออดนอน จะทำให้รางกายเกิดภาวะเครียด ต่อมหมวกไตจะมีการหลั่งฮอร์โมนเครียด คอร์ติซอลที่เป็นสารจำพวกสเตียรอยด์ จะทำให้ร่างกายมีการเก็บกักสารอาหารจำเป็น เช่น เกลือโซเดียม ที่ทำให้ร่างกายเกิดภาวะบวมน้ำ ความดันโลหิตสูง ไตเสื่อม / น้ำตาล เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงาน เสี่ยงต่อเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้น้ำตาลยังเปลี่ยนเป็นไขมัน ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน หรือภาวะไขมันพอกตับ / แคลเซียมออกจากกระดูก เสี่ยงต่อการเกิดภาวะกระดูกบางหรือกระดูกพรุน และยังพบว่าคอร์ติซอลทำให้ลดการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท ส่งผลต่อความทรงจำระยะยาว ทำให้คอลลาเจนฝ่อตัว ผิวหนังเหี่ยวย่น

หากปฏิบัติเหมือนเดิม ก็จะได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตนเองนะครับ

กรณีมีข้อสงสัยเร่งด่วนเกี่ยวกับการใช้ยา สามารถสอบถามได้จากแพทย์หรือเภสัชกรร้านยาใกล้บ้านได้ทันที "ก่อน" การใช้ยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นใด เนื่องจากอาจเกิดปฏิกิริยาระหว่างยา จนเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หรือเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล